รักษาหลุมสิว

สอบถาม ปรึกษาเพิ่มเติมการรักษาได้ที่นี่ค่ะ

080-1539000
080-1549000
Line@ : @Romrawinclinic

หมวดหมู่:

รายละเอียดเพิ่มเติม

รักษาหลุมสิว

รักษาหลุมสิวอย่างไรให้ได้ผล?

ปัญหาเรื่องสิวนั้น นับว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และสามารถรักษาให้หายได้ แต่หนึ่งสิ่งที่ควรระวังจากการมีปัญหาเรื่องสิว คือ ปัญหาหลุมสิว ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่เลือกวิธีรักษาสิวอย่างผิดวิธี ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว เราควรที่จะดูแลและรักษาผิวอย่างถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวขึ้นได้ ถึงแม้ปัญหานี้จะแก้ไขได้ยาก แต่ก็สามารถรักษาให้หายได้

รักษาหลุมสิว

สิวที่เป็นสาเหตุของการเกิดหลุมสิว

หากใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องสิวผด หรือสิวที่เกิดจากการอาการแพ้ต่างๆ แม้สิวประเภทนี้จะไม่ทำให้เกิดหลุมสิว แต่ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย ต้องรีบดูแลและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ แต่หากเป็นสิวประเภทสิวอุดตัน สิวหัวช้าง สิวหนองเม็ดใหญ่ เราจะต้องเตรียมตัวรับมือและใส่ใจดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากสิวเหล่านี้เป็นสิวอักเสบ ที่เมื่อหลังจากหายจะทิ้งหลุมสิวเอาไว้บนใบหน้า

สาเหตุของหลุมสิวบนใบหน้า

หลุมสิว หรือ แผลเป็นที่เกิดจากสิว อาจมีลักษณะเป็นหลุมเล็ก ขรุขระ ไม่เรียบเนียน หรือในกรณีที่รุนแรง เนื้อเยื่อบริเวณที่เกิดสิวอักเสบจะยุบลง และกลายเป็นแอ่งหลุมสิวทิ้งไว้ เนื่องจากสิวอักเสบมีทั้งเชื้อแบคทีเรียและหนอง ซึ่งกระบวนการอักเสบนั้นทำให้เกิดเอ็นไซม์ทำร้ายผิว ส่งผลให้คอลลาเจนและเนื้อเยื่อถูกทำลาย หากสิวไม่ใหญ่นักก็จะทิ้งแผลเป็นขนาดเล็ก ถ้าสิวเม็ดใหญ่หลุมสิวก็อาจจะลงลึกถึงผิวหนังชั้นใน และเกิดเป็นพังผืดตามมา ซึ่งมักเกิดขึ้นในกรณีของคนที่เป็นสิวหัวช้าง การรักษาแผลเป็นที่ดีที่สุด คือ การรักษาตั้งแต่เพิ่งเริ่มเป็นใหม่ๆ ช่วงแรกพังผืดรอบๆ ยังไม่แข็งมาก การรักษาจะทำได้ง่ายมากว่า

หลุมสิว

การป้องกันการเกิดแผลเป็นจากสิว

      • การทายารักษาสิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสิวให้หายเร็วๆ และป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น
      • รักษาด้วยการกดสิว ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขจัดสิวอุดตัน แต่ไม่ควรบีบหรือแกะสิวเอง เนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อซ้ำลงไปบริเวณนั้นและทำให้เกิดรอยดำหรือแผลเป็นตามมาได้ ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบมาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจจะฉีดยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ เข้าไปในตำแหน่งที่เกิดสิวอักเสบนั้น ก็จะช่วยให้สิวยุบลงได้

การรักษาหลุมสิว

ก่อนทำการรักษาหลุมสิวทุกครั้ง จำเป็นต้องรู้ถึงระดับ ความรุนแรงของหลุมสิวที่เกิดขึ้นก่อนว่ามีความมากน้อยเพียงใด เพราะหากมีปัญหาเล็กน้อย ก็สามารถรักษาด้วยการทายา ที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ AHA ได้ แต่ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากหรือเข้มข้นมากจนเกินไป เพราะอาจเกิดการระคายเคืองผิว อาการแสบร้อน หรือคันบนผิวได้ หรือเข้ารับการบำรุงหน้าด้วยทรีตเม้นต์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว

การรักษาหลุมสิว

แต่หากมีปัญหามาก อยู่ในรับที่การทายาหรือทำทรีตเม้นต์ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทางแพทย์ก็มีตัวช่วยอย่างนวัตกรรมที่ช่วยรักษาหลุมสิว โดยหลักการ คือการเลาะพังผืดที่อยู่ภายใต้ผิวหนังออก จากนั้นทำการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูผิว ผลลัพธ์ที่ได้ คือ หลุมสิวตื้นขึ้น หรือจางลง ถึงอย่างไร แม้หลุมสิวจะรุนแรงมากหรือน้อยเพียงใดก็ไม่สามารถรักษาให้หาย 100% ได้

      • เลเซอร์รักษาหลุมสิว สามารถรักษาหลุมสิวทั้ง 3 ประเภทได้ แต่จำเป็นต้องพักฟื้นผิวเป็นเวลานาน และควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เนื่องจากผิวจะหมองคล้ำและเป็นริ้วรอยได้ง่ายกว่าปกติ
      • Fraxel Laser คือ การยิงเลเซอร์ที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์ผิวให้เรียบเนียนขึ้น เป็นการทำเลเซอร์ที่อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ควรทำติดต่อกันประมาณ 4-5 ครั้งจึงจะเห็นผล
      • eMatrix Laser คือ เครื่องที่ใช้เทคโนโลยี Fractional Radiofrequency หรือคลื่นวิทยุที่ลงแบบแบ่งส่วน ปัจจุบัน นิยมนำมาใช้ปรับสภาพผิวเพื่อรักษา รอยแผลเป็น แผลเป็นหลุม หลุมสิว ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง
      • Fractional Laser คือ การรักษาผิวทีละส่วนโดยใช้แสงเลเซอร์อนุภาคเล็กมากยิงลงไปสู่ผิวหนังเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผิวฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองและสร้างผิวหนังใหม่ที่แข็งแรงกว่ามาทดแทนผิวเดิม ใช้ได้ดีในการแก้ปัญหาหลุมสิว หลุมแผลเป็น รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
      • แต้มกรด TCA ซึ่งกรดที่ใช้อาจมีความเข้มข้นตั้งแต่ 50% 70% และ 100% โดยการแต้มกรดชนิดนี้บนหลุมสิว จะต้องทำโดยแพทย์หรือผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้น เพราะหากไม่ระวังหรือใช้ไม่ถูกวิธี อาจได้รับแผลหลุมสิวที่ใหญ่กว่าเดิมได้ โดยระยะในการเห็นผลอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน
      • การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) การรักษาหลุมสิว ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือ การนำสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) มาฉีดเพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ผิวดูเต็มขึ้น โดยจะเห็นผลว่าหลุมสิวดูตื้นขึ้น 30-70% ทันทีหลังฉีด ข้อเสียคือมันเป็นสารที่เสื่อมสลายไปได้เอง การฉีด 1 ครั้ง จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี เหมาะกับการรักษาหลุมสิวประเภท Rolling scar และ Box scar

การรักษา “หลุมสิว”  สามารถใช้หลายวิธีร่วมกันในการรักษาได้ และอาจต้องใช้จำนวนการรักษาหลายครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของหลุมสิว ใครที่อยากรักษาหลุมสิวตื้นขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือคลินิกที่เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ก็ควรป้องกันไม่ให้เกิดสิวขึ้นซ้ำซาก เพราะ “สิว” คือต้นเหตุของการเกิดหลุมสิว

สอบถาม ปรึกษาเพิ่มเติมการรักษาได้ที่นี่ค่ะ
080-1539000 080-1549000
Line@ : @Romrawinclinic
addline e1657478179945