เลเซอร์หน้าใส
รอยดำจากสิว

รวมข้อควรรู้และเคล็ดลับสำหรับกำจัดรอยดำจากสิว

รอยดำจากสิวคือรอยสิวประเภทหนึ่งที่แม้ว่าจะไม่ได้จ้องมอง แต่ก็สามารถเห็นรอยชัดเจนจนอาจทำให้คุณรู้สึกปวดใจได้ เพราะรอยสิวก็ทำให้ดูหน้าโทรม แต่จะรอให้รอยหายไปเองก็ไม่หายสักที สำหรับคุณที่กำลังมองหาวิธีกำจัดลบรอยดำจากสิวให้หมดไป ในบทความนี้ทางรมย์รวินท์ก็จะมาแนะนำเคล็ดลับกำจัดรอยดำจากสิวที่ได้ผลจริงให้คุณกลับมามีผิวเรียบเนียนอีกครั้ง



สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยดำจากสิว

รอยดำจากสิวมีสาเหตุเกิดจากสิวเช่นเดียวกับรอยสิวประเภทอื่น เช่น รอยแดง หลุมสิว แต่จะมีกระบวนการเกิดแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ

รอยแดงจากสิว 

รอยแดงจากสิว (Post-Inflammatory Erythema) คือ รอยที่เกิดจากการแกะเกาผิวหนังจนอักเสบ และผิวหนังเกิดกระบวนการลำเลียงเลือดบริเวณผิวที่อักเสบเพื่อฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวหนังให้กลับมาเป็นปกติ ทำให้บริเวณผิวที่กำลังซ่อมแซมมีรอยสีชมพู แดง ม่วง

รอยดำจากสิว 

รอยดำจากสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) คือ รอยที่เกิดขึ้นจากสิวอุดตัน สิวอักเสบระคายเคืองจากการแกะ เกา หรือการเลเซอร์สิว ทำให้ร่างกายกระตุ้นกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานินขึ้นมา ทำให้มีรอยสีน้ำตาลไปจนถึงดำ

รอยหลุมสิว 

รอยหลุมสิว (Atrophic Scars) คือ รอยแผลที่หลงเหลือจากสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน มีสาเหตุจากร่างกายไม่สามารถสร้างคอลลาเจนเพียงพอที่จะฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่ได้รับผลกระทบได้ ทำให้บริเวณผิวที่เคยเป็นสิวมีลักษณะเป็นหลุม ไม่เรียบเรียน


10 วิธีรักษารอยดำจากสิวบนใบหน้า

รอยดำจากสิวเป็นรอยที่สามารถหายเองตามธรรมชาติได้ ซึ่งจะต้องรอให้ผิวใช้เวลาฟื้นตัวอย่างน้อย 2-4 เดือนหรืออาจใช้เวลาเป็นปีกว่ารอยดำจะหายไป แต่ทางเรามีวิธีแก้รอยดำจากสิวแบบเร่งด่วนที่จะช่วยให้รอยดำสิวหายเร็วมากขึ้นค่ะ

1.ยาทาลดรอยดำจากสิว

ยาทาเป็นหนึ่งในวิธีรักษารอยดำ รอยแดงจากสิวที่ได้รับความนิยมสูง โดยส่วนมากแล้วยาทาลดรอยดำจากสิวจะมีส่วนประกอบของสารที่มีส่วนช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานินและผลัดเซลล์ผิวสีให้ดูจางลง เช่น Hydroquinone, Tretinoin, Arbutin, Glycolic Acid แต่สารดังกล่าวอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งานเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงค่ะ

2.เลเซอร์ลดรอยดำจากสิว

เลเซอร์รอยสิวเป็นวิธีรักษารอยดำจากสิวเร่งด่วนที่เห็นผลลัพธ์ไวและได้ผลลัพธ์ดีในระยะยาวเพราะเป็นการรักษาบริเวณที่เป็นรอยดำจากสิวโดยตรง ทำให้มีผู้รักษารอยสิวด้วยการทำเลเซอร์มากขึ้น ในส่วนของเลเซอร์ที่นำมาใช้รักษารอยดำจากสิวมีหลายประเภท เช่น Pico Laser, Dual Yellow LaserQ-Switch Laser และเลเซอร์หน้าใสอื่น ๆ

3.ผลัดเซลล์ผิวลดรอยดำจากสิว

ผลัดเซลล์ผิวเป็นวิธีลดรอยดำบนใบหน้าได้ โดยใช้น้ำยาเคมีทาบริเวณผิวที่เป็นรอยบาง ๆ ให้เซลล์ผิวชั้นตื้นลอกออก จากนั้นร่างกายก็จะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นทดแทนส่วนที่ลอกออกไป ทำให้รอยดำจากสิวหรือจุดด่างดำดูจางลง การผลัดเซลล์ผิวสามารถรักษาผิวตามความลึกของผิวได้ แต่ยิ่งลอกผิวหนังชั้นลึกลงเท่าไหร่ก็มีโอกาสพบผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น จึงควรอยู่ในการดูแลจากแพทย์ค่ะ

4.HIFU ลดรอยดำจากสิว

หลายคนอาจจะรู้จัก HIFU ว่าเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับ สลายไขมันบนผิวหน้าให้เรียวสวยด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ แต่ที่จริงแล้วคลื่นอัลตราซาวนด์จากเครื่อง HIFU ยังช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนซึ่งจะทำให้โอกาสเกิดรอยดำจากสิวลดลงด้วยเช่นกัน

5.ฉีดสารลดรอยดำจากสิว

การฉีดสารต่าง ๆ เข้าที่ผิวหน้าก็จะช่วยบำรุงใบหน้าให้ดูขาวผ่องใสมากขึ้นได้เร็ว เพราะสารที่ฉีดไปจะเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง ในที่นี้คุณสามารถฉีด Skin Booster ที่ช่วยลดรอยดำจากสิวและบำรุงผิวให้แข็งแรง อย่างการฉีดเมโส, ฉีด Rejuran หรือฉีดชาแนลที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังฟื้นฟู อวบอิ่มน้ำ และส่งผลให้ริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าจางลงค่ะ 

6.สมุนไพรลดรอยดำจากสิว

สมุนไพรที่ช่วยลดรอยดำจากสิวนั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น ว่านหางจระเข้ ขมิ้นชัน หอมแดง น้ำผึ้ง มะเขือเทศ และอื่น ๆ คุณสามารถนำสมุนไพรดังกล่าวมาใช้พอกหน้าเพื่อลดรอยสิวบนใบหน้าได้ด้วยเช่นกัน แต่หลังจากพอกเสร็จแล้วควรทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดสิวเห่อ

7.มาส์กหน้าลดรอยดำจากสิว

วิธีแก้รอยสิวง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ไม่ยากด้วยตนเองที่บ้าน คือ การใช้มาส์กหน้าลดรอยดำจากสิว ในปัจจุบันมีมาส์กหลายสูตรที่ช่วยเรื่องผิวหน้าให้เลือกใช้ ในที่นี้คุณสามารถใช้มาส์กสูตรที่ช่วยเรื่องรอยดำจากการแกะสิว หรือสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน หรือลดสิวอักเสบได้ แต่ในการใช้มาส์กบำรุงหน้าจะต้องตรวจสอบสภาพผิวหน้าของตนเองก่อนใช้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

8.สครับผิวลดรอยดำจากสิว

การสครับจะช่วยผลัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน เช่น เซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวอุดตัน หรือเส้นขนที่ขึ้นผิดปกติจนกลายเป็นสิวเสี้ยนได้ ทำให้ผิวของคุณดูกระจ่างใสและรอยดำบนใบหน้าจางลง แต่การสครับหน้าจะต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เนื้อไม่หยาบเกินและไม่ควรสครับหน้าติดต่อกันทุกวันเพราะจะทำให้ผิวบางลงค่ะ

9.ฉายแสงลดรอยดำจากสิว

การฉายแสง คือ การนำแสง LED สีต่าง ๆ มารักษาปัญหาผิวหนังต่าง ๆ ทั้งสิวและรอยดำ รอยแดงจากสิว โดยแสงที่นำมาใช้รักษาจะมีอยู่ 4 สีด้วยกัน ดังนี้

  • สีเหลือง – ปรับผิวให้กระจ่าง ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน
  • สีเขียว – ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ทำให้เกิดรอยดำ ฝ้า กระ
  • สีแดง – กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ให้ผิวแข็งแรง
  • สีฟ้า – กำจัดแบคทีเรีย P. acne ต้นตอของสิว

10.สกินแคร์ลดรอยดำจากสิว

สกินแคร์เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สามารถซื้อมาทาบำรุงผิวหน้าและลดรอยดำ ลดรอยแดงจากสิวได้อย่างดีเยี่ยม อย่างไรก็ตามควรเลือกซื้อสกินแคร์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และได้รับรองจากอย. เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงขึ้นค่ะ


วิธีปกป้องผิวให้ปราศจากรอยดำจากสิว

รักษารอยดำจากสิว

เพื่อลดโอกาสเกิดรอยดำจากสิวซ้ำ สามารถทำตามวิธีปกป้องผิวจากรอยดำได้ เช่น

  • งดเกาและแกะสิว

การแกะเกาสิวจะทำให้ผิวระคายเคืองและอักเสบได้ง่าย ในเวลาที่ผิวอักเสบก็จะไปกระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีจนเป็นรอยดำจากสิวได้ ดังนั้นจึงควรงดแกะเกาสิวเพื่อหลีกเลี่ยงลดโอกาสเกิดรอยดำขึ้น

  • หมั่นทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดช่วยป้องกันผิวการจากรังสี UV ซึ่งเป็นรังสีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังได้โดยป้องกันผิวไหม้และช่วยลดการเกิดรอยดำหรือจุดด่างดำที่ทำให้ผิวดูไม่สม่ำเสมอได้

  • ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

การทานโปรตีน เช่น ไข่ ปลา จะมีส่วนช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวได้ ทำให้เวลาเป็นสิวจะหายไวขึ้น และการทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวจะมีส่วนช่วยลดรอยดำสิวทำให้ผิวดูสดใสขึ้นได้

  • งดทานอาหารที่เพิ่มโอกาสเกิดสิวและรอยดำ

แม้ว่าร่างกายคนเราควรได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ แต่หากอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไปก็ไม่เป็นผลดีต่อผิวหนัง เพราะไขมันจะไปกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ ทำให้มีโอกาสรอยดำ รอยแดงจากสิวมากขึ้น


คำถามที่พบบ่อย

วิธีไหนรักษารอยดำจากสิวได้ผลดีที่สุด?

วิธีรักษารอยดำจากสิวเร็วที่สุด คือ การเลเซอร์ เพราะคลื่นเลเซอร์จะไปทำลายเม็ดสีเมลานินโดยตรง ทำให้เม็ดสีแตกตัวและถูกกำจัดออกไป ผิวที่มีรอยดำหรือรอยแดงจากสิวก็จะดูจางลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากรับการรักษา 2-4 ครั้ง (ประมาณ 1-2 เดือนค่ะ)

รอยดำจากสิวกี่วันหาย? หายเองได้ไหม?

โดยทั่วไปแล้วรอยดำจากสิวสามารถหายเองได้ โดยจะใช้ระยะเวลาอย่างต่ำ 2-4 เดือนหรืออาจใช้เวลา 1-2 ปีขึ้นอยู่กับความเข้มของรอยสิว อายุ และการดูแลร่างกายตนเองค่ะ

รักษารอยดําจากสิวที่ไหนดี?

หากต้องการให้จุดด่างดำหรือรอยสิวประเภทต่าง ๆ บนใบหน้าจางหายไป สามารถเดินทางพบแพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกเพื่อรักษารอยดำจากสิวและรักษาสิวไม่ให้มีรอยสิวเกิดขึ้นซ้ำได้ เพราะแพทย์จะเช็กสภาพใบหน้าโดยรวมก่อนเพื่อเลือกวิธีรักษาตามความเหมาะสมค่ะ


สรุปวิธีรักษารอยดำจากสิวให้หายระยะยาว

ในปัจจุบันรอยดำจากสิวมีวิธีรักษามากมาย ทั้งการใช้ยาทา ฉีดยา การทำเลเซอร์และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละวิธีที่ใช้ลดจุดด่างดำรอยสิวก็จะมีข้อดีข้อจำกัดแตกต่างกัน และวิธีรักษายังส่งผลต่อระยะเวลาที่รอยดำบนใบหน้าหายออกไปด้วยค่ะ 

แต่ถ้าต้องการให้รอยดำ รอยแดงจากสิวหายเร็วก็สามารถทำเลเซอร์รอยสิวราคาคุ้มค่าประสิทธิภาพครบครันกับรมย์รวินท์คลินิก เพราะทางเราเป็นคลินิกเสริมความงามที่มุ่งเน้นการรักษาปัญหาผิวหนังต่าง ๆ รวมถึงรอยดำจากสิวโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เท่านั้นค่ะ


[elementor-template id="15452"]