ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คางกับผ่าตัดเสริมคางอันไหนดีกว่า? ควรฉีด Filler คางกี่ cc?

อยากหน้าสวย หน้าดูเข้ารูป แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีระหว่างเสริมคางกับฉีดฟิลเลอร์ หลายคนก็เลือกฉีดคาง หลายคนก็เลือกเสริมคาง สรุปแล้วแบบไหนดีกว่ากัน แล้วถ้าต้องการฉีดฟิลเลอร์ต้องฉีดกี่ cc ข้อสงสัยเหล่านี้จะหมดไปค่ะ เพราะวันนี้รมย์รวินท์คลินิกจะพาทุกคนที่อยากหน้าสวย มีโหงวเฮ้งดี ไปรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์คาง พร้อมทั้งเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างการเสริมคาง และฉีดคางว่าควรเลือกแบบไหนที่บทความนี้ค่ะ



ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร 

การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งสามารถสลายออกจากร่างกายได้อย่างธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายตกค้าง โดยฉีดลงในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกบริเวณคางเพื่อแก้ปัญหาคางที่ทำให้รูปหน้าไม่ได้สัดส่วน เช่น ปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางตัด ซึ่งฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยปรับรูปหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนให้มีความยาวที่เหมาะสม และที่สำคัญการฉีดฟิลเลอร์คางไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน เมื่อฉีดเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ


ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์คาง

ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถเห็นผลลัพธ์หลังฉีดได้ทันทีว่าบริเวณที่ฉีดมีการเปลี่ยนแปลง โดยทั้งนี้ผลลัพธ์จะมีการเปลี่ยนแปลงมาก-น้อยขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดเติมเต็มเข้าไป โดยผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ด้วยค่ะ

นอกจากการฉีดฟิลเลอร์คางที่จะช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าแล้ว ยังมีการฉีดฟิลเลอร์อื่น ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูดี และน่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น การฉีดฟิลเลอร์ปาก และฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ช่วยปรับปรุงให้ใบหน้าดูสดใส ดูมั่นใจมากยิ่งขึ้น 


ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง

วันนี้รมย์รวินท์จะพาไปส่องกันค่ะว่าใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง ดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด เสริมคาง
  • ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน
  • ผู้ที่มีคางสั้น
  • ผู้ที่มีคางตัด
  • ผู้ที่มีคางถอย
  • ผู้ที่มีคางบุ๋ม

ฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม? Filler คางอันตรายหรือไม่?

ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์คางเป็นหัตถการการปรับรูปหน้าอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยให้ใบหน้าเปลี่ยนอย่างได้สัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งหลายคนก็มีข้อกังวลใจว่าการฉีดฟิลเลอร์คางนั้นดีไหมจะทำให้เกิดอันตรายอะไรหรือเปล่า? จริง ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์คางนั้น หากได้รับการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ไม่ฉีดตื้นจนเกินไป มีเทคนิคในการฉีดที่ถูกต้อง การฉีดฟิลเลอร์คางก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือก่อให้เกิดการเป็นก้อนค่ะ 


ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมคางอันไหนดีกว่ากัน?

ฟิลเลอร์คาง vs เสริมคาง

จริง ๆ แล้วต้องบอกก่อนว่าการเสริมคางและการฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ถาวร การเสริมคางอาจจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่าการฉีดฟิลเลอร์คางค่ะ เพราะว่าการเสริมคางจะเป็นการเสริมซิลิโคนเข้าไปที่กลางบริเวณคางซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ถาวร แตกต่างจากฟิลเลอร์ที่สามารถสลายออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ เมื่อฟิลเลอร์สลายหมดก็จะทำให้รูปร่างของคางกลับมาเป็นปกติแบบเดิม

สำหรับใครที่ไม่อยากเจ็บตัวหรือกลัวการที่จะต้องผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคาง ก็อาจจะเลือกวิธีการปรับรูปหน้าให้ดีขึ้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์คางแทน เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางไม่จำเป็นจะต้องเจ็บตัวเท่ากับการเสริมคางรวมถึงยังไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

เสริมคางแล้วฉีดฟิลเลอร์คางเพิ่มได้ไหม?

สำหรับใครที่มีความต้องการเสริมคางเพิ่มหลังจากฉีดฟิลเลอร์คางไปแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะในบางเคสหากแพทย์พิจารณาแล้วว่าสามารถฉีดฟิลเลอร์คางเพิ่มได้ แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์คางเพิ่มให้ค่ะ แต่สำหรับในบางเคสหากประเมินแล้วเห็นว่าไม่ควรฉีดเพิ่ม แพทย์ก็จะไม่ฉีดฟิลเลอร์คางให้ค่ะ ใครที่เสริมคางมาแล้วต้องการฉีดฟิลเลอร์คางเพิ่มทางรมย์รวินท์คลินิกแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีกว่านะคะ


ฉีดฟิลเลอร์คางเทคนิคไหนดี เสริมความมั่นใจ 

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ดีและถูกต้อง จะเป็นการใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งถือเป็นเทคนิคการฉีดลงไปที่ผิวชั้นลึก การฉีดแบบนี้จะไม่เป็นการฉีดตื้นจนเกินไป ไม่ทำให้ฟิลเลอร์คางเป็นก้อนพร้อมยังทำให้คางได้รูปสวย ดูเรียวยาวอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงมีลักษณะโหงวเฮ้งที่ดี


ข้อดี – ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คาง

หลังจากที่ได้ทราบไปแล้วว่าฟิลเลอร์คางคืออะไร ทีนี้เรามาดูข้อดีและข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คางกันค่ะ โดยข้อดี หรือประโยชน์ของฟิลเลอร์คาง และข้อจำกัดมีดังต่อไปนี้

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ช่วยทำให้รูปหน้าเรียววีเชฟ
  • แก้ปัญหาคางตัด คางสั้น คางบุ๋ม ให้ได้รูป
  • ช่วยให้คางดูยาวขึ้นใบหน้าได้สัดส่วน
  • ฟิลเลอร์ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ
  • สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่หลังฉีด
  • ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ไม่ต้องผ่าตัด เมื่อฉีดฟิลเลอร์คางเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • การฉีดฟิลเลอร์คางใช้เวลาไม่นาน

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ผลลัพธ์ในการฉีดฟิลเลอร์คางไม่ใช่ผลลัพธ์ที่อยู่ถาวร จึงทำให้ต้องมาเติมฟิลเลอร์คางซ้ำหากฟิลเลอร์สลายออกหมดแล้ว

ใครไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์คางจะเป็นการปรับรูปหน้าให้ได้หน้าวีเชฟ คางยาวได้รูป ใบหน้าดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น แต่ก็ใช่ว่าการฉีดฟิลเลอร์คางจะเหมาะกับทุกคนนะคะ เพราะในบางคนก็มีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่เหมาะที่จะฉีดฟิลเลอร์คาง ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย ผู้ที่แพ้ยาชา หรือผู้ที่มีความต้องการจะทำศัลยกรรมเสริมคางในอนาคต เป็นต้น นอกจากผู้ที่มีข้อจำกัดแล้วยังรวมไปถึงผู้ที่มีลักษณะคางบางรูปแบบที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คางด้วยค่ะ

ลักษณะคางที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ค่อยสวย

ลักษณะคางบางรูปแบบที่ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วจะออกมาไม่สวย หรืออาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงพอใจ มักได้แก่

  • ผู้ที่มีคางสั้นมาก
  • ต้องการให้คางยาวเกิน 1 เซนติเมตรหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

นอกจากลักษณะคางที่ไม่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์แล้ว หากท่านใดต้องการให้คางมีผลลัพธ์แบบหน้าวีเชฟถาวร ก็ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์เช่นเดียวกันค่ะ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าผลลัพธ์ของฟิลเลอร์คางนั้นไม่สามารถอยู่ได้ถาวร จะต้องมีการเติมฟิลเลอร์ซ้ำเพื่อให้ได้รูป หากใครต้องการให้ผลลัพธ์อยู่อย่างถาวรนั้นแนะนำว่าให้ทำการเสริมคางจะดีกว่าค่ะ 


ก่อนฉีดฟิลเลอร์คางเตรียมตัวอย่างไร 

ไม่ว่าจะหัตถการใดก็ควรเตรียมตัวเสมอ เช่นเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์คาง วันนี้ทางรมย์รวินท์คลินิกจะพาไปดูกันว่า ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์คางให้รูปหน้าสวยเป๊ะควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ดังนี้ 

  • ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ทั้งวิธีการสังเกตของแท้ ข้อดีข้อจำกัด รวมไปถึงการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมกลุ่มที่อาจทำให้เกิดเลือดออกง่าย เช่น ยากลุ่ม NSAIDs ยา แอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด วิตามินอี สารสกัดแปะก๊วย ก่อนฉีด 3-7 วัน 
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง 1 วัน
  • หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดทุกครั้งในกรณีที่มีปัญหาผิวหนัง  เช่น ผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ ในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ 

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ
  • เข้าปรึกษาพูดคุยกับแพทย์เพื่อบอกปัญหาที่กังวล รวมไปถึงความต้องการในการปรับรูปหน้าบริเวณคาง
  • หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
  • แพทย์จะทำการประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในการฉีดฟิลเลอร์คาง
  • เจ้าหน้าที่จะทำการเช็ดทำความสะอาดผิว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • เมื่อเช็ดทำความสะอาดผิวเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการแปะยาชาบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ จากนั้นรอจนกว่ายาชาจะออกฤทธิ์
  • แพทย์จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังบริเวณคาง และทำการปั้นจนได้รูป จากนั้นจะรอให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัว
  • เมื่อฉีดเสร็จเรียบร้อยแพทย์จะพูดคุยอธิบายถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง จากนั้นคนไข้สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางคือ การฉีดแล้วดูเป็นก้อนอย่างเห็นได้ชัด นอกจากในเรื่องของการฉีดแล้วดูเป็นก้อนแล้ว ยังมีเรื่องของการฉีดฟิลเลอร์คางแล้วขึ้นลักษณะผิดรูป เช่น คางเบี้ยว ดูไม่เข้ากับรูปหน้า 

อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย มีใบอนุญาตในการเปิดคลินิก นอกจากนั้นต้องเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในด้านฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงดังกล่าวค่ะ 


ดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางอย่างไร 

  • หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน โดนแดดจัด รวมไปถึงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกง่าย เช่น การเข้าซาวน่า การทำเลเซอร์ผิว การรับประทานชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง เป็นต้น
  • งดการสูบบุหรี่
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
  • ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ
  • หลีกเลี่ยงการนั่งเท้าคาง นั่งเอาเข่าชันคาง นวด คลึง จับ เกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คางมาในช่วงแรก เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์บริเวณที่ฉีดเกิดการผิดรูปได้

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี 

การเลือกสถานที่ในการฉีดฟิลเลอร์ก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากจะต้องพิจารณาผลลัพธ์หลังการฉีดแล้ว ยังต้องมองไปถึงความปลอดภัยอีกด้วย โดยหลักในการเลือกสถานที่ในการฉีดฟิลเลอร์คาง มีหลักการง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  • เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตเปิดสถานประกอบการ  มีการรับรองมาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
  • มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์เป็นผู้ให้การดูแลโดยเฉพาะ ที่สำคัญต้องเป็นแพทย์จริงสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ผ่านทางเว็บไซต์แพทยสภา
  • แพทย์สามารถให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำเกี่ยวกับรูปหน้าได้อย่างตรงจุด
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่องให้ดูต่อหน้า และสามารถขอกล่องกลับบ้านได้
  • คลินิกสะอาด มีความปลอดภัย
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้เข้าบริการฉีดฟิลเลอร์คางจริง
  • คลินิกมีหลากหลายสาขา เดินทางง่าย เดินทางสะดวก
  • มีการติดตามผลลัพธ์หลังทำ

ฉีดฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี

  • ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Restylane lyft : เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดนซึ่งเหมาะกับการฉีดคาง ด้วยเนื้อสัมผัสของฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งสามารถยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดีเหมาะกับการปั้นขึ้นรูป แถมยังมียาชาทำให้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บจากการฉีดฟิลเลอร์ได้ ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน 
  • ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Restylane defyne : เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดนอีกหนึ่งรุ่น ที่มียาชา และเนื้อไม่ค่อยแข็งมากอยู่ในระดับปานกลาง เหมาะกับการนำมาฉีดคางเพราะสามารถขึ้นรูปได้เป็นอย่างดี ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Juvederm Volux : เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อจากอเมริกา มีจุดเด่นคือเนื้อสัมผัสจะมีความกลืนไปกับผิวได้เป็นอย่างดี และมีความอิ่มฟู ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Juvederm voluma : ฟิลเลอร์จากอเมริกาอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยม มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าในเรื่องของเนื้อสัมผัส โดยรุ่นนี้มีการออกแบบมาเพื่อเหมาะสมกับการฉีดคาง ด้วยเนื้อที่แข็งปานกลางทำให้การฉีดบริเวณคางสามารถขึ้นรูปได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Belotero Intense : ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีจุดเด่นคือมีเนื้อแข็ง โดยผลลัพธ์ในการนำฟิลเลอร์ตัวนี้มาฉีดคางจะสามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Definisse Core : ตัวนี้จะเป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อจากอิตาลีที่นำมาฉีดคาง โดยตัวนี้มีจุดเด่นที่มีเนื้อแข็งเหมาะกับการฉีดคาง และสามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟีลเลอร์คางของแท้ดูอย่างไร 

ก่อนจะไปฉีดฟิลเลอร์คาง การรู้วิธีสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ก็สำคัญมาก ๆ เลยค่ะ รมย์รวินท์เลยได้รวบรวมวิธีสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ว่าดูตรงไหน เช็กอย่างไรให้ชัวร์ว่าของแท้ ดังนี้

  • เลข Lot. ไม่ว่าจะบริเวณกล่อง สติ๊กเกอร์ ซอง หลอด ของยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องตรงกันทุกบริเวณ ที่สำคัญสามารถเช็กเลข Lot. กับบริษัทที่เป็นผู้นำเข้าจัดจำหน่ายได้
  • มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารภาษาไทยกำกับ
  • นอกจากนั้นยังสามารถสังเกตได้จาก Sticker โฮโลแกรมสำหรับฟิลเลอร์บางยี่ห้อ เช่น Restylane เป็นต้น
  • กล่องฟิลเลอร์ต้องยังไม่ผ่านการแกะ และต้องมีการปิดผนึกไว้เสมอ
  • สามารถเช็กรายชื่อคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ได้กับบริษัทที่เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย

ฟิลเลอร์คางเท่าไหร่

โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์คางแต่ละครั้งราคาจะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่แล้วราคาฟิลเลอร์คางจะเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 – 25,000 บาทค่ะซึ่งจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมไปถึงการตั้งราคาของแต่ละคลินิก 


รีวิวฉีดฟิลเลอร์คางกับ Romrawin Clinic 

ไหนใครอยากฉีดฟิลเลอร์คางกันบ้างคะ วันนี้เราจะชวนไปดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์คางกับทางรมย์รวินท์คลินิกของผู้ใช้บริการจริงกันว่า จะมีผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไปอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

รีวิวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

ภาพก่อนการฉีดฟิลเลอร์คางของคุณคิน เห็นได้ว่าช่วงคางมีลักษณะหน้าตัด ยังไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับรูปหน้า

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ภาพรีวิวฟิลเลอร์คางหลังฉีดของคุณคิน จะเห็นได้ว่าช่วงคางมีความสมส่วนกับใบหน้ามากยิ่งขึ้นเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหลังฉีดเข้ากับรูปหน้า และคางไม่แหลมจนเกินไป


คำถามที่พบบ่อย 

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์คาง 

1. ฉีดฟิลเลอร์คางเจ็บไหม? 

ปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์คางจะมียาชาทาบริเวณที่จะฉีดให้ก่อนเสมอค่ะ รวมไปถึงตัวฟิลเลอร์ก็จะมียาชาเป็นส่วนผสมด้วย แต่อย่างไรก็ตามความเจ็บก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักมือของคุณหมอที่ฉีดฟิลเลอร์คางให้คนไข้ด้วยเช่นกัน รวมถึงการรับความรู้สึกของแต่ละคนค่ะ ซึ่งบางคนเมื่อใช้ยาชาแล้วก็อาจจะไม่รู้สึกเจ็บ รู้สึกเฉยๆ  ส่วนบางคนอาจจะยังรับรู้ความเจ็บบ้างเล็กน้อย

2. ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน จัดการอย่างไรดี?

การฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อนเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการฉีด รวมไปถึงการฉีดฟิลเลอร์คางชั้นที่ตื้นจนเกินไป ซึ่งในกรณีที่เกิดการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ของแท้ สามารถแก้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ แต่จะไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นของปลอม ซึ่งในกรณีนี้จำเป็นต้องใช้วิธีการขูดฟิลเลอร์หรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออกเท่านั้นค่ะ

3. ฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้กี่เดือน? 

โดยปกติแล้วผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คางในแต่ละยี่ห้อสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือนค่ะ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย เพราะหากมีการใช้ชีวิตประจำวันที่มีส่วนทำให้ฟิลเลอร์สลายออกจากร่างกายได้เร็วมากขึ้น เช่น การเลเซอร์บริเวณใบหน้า การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

4. ฟิลเลอร์คางสลายได้ไหม? 

ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอน แอซิด ซึ่งเป็นสารที่สลายออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ โดยไม่เหลือตกค้าง ซึ่งเมื่อถามว่าฟิลเลอร์คางสามารถสลายได้หรือไม่นั้น คำตอบคือ สามารถสลายเองตามธรรมชาติค่ะ รวมไปถึงสามารถสลายได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ค่ะ ซึ่งต้องเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถสลายได้ตามวิธีที่กล่าวมา จำเป็นต้องขูดออกเท่านั้นค่ะ  

5. ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน? 

หลังฉีดฟิลเลอร์คางนอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ยังมีอาการบวมที่เกิดขึ้นหลังฉีดได้ด้วย ซึ่งอาการบวมที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์คางนั้นจะบวมอยู่ประมาณ 3-7 วัน แต่ไม่ต้องกังวลใจนะคะอาการบวมดังกล่าวเป็นอาการปกติ และสามารถหายเองได้ค่ะ

6. ฟิลเลอร์คางใช้กี่ CC?

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์คางใช้ปริมาณฟิลเลอร์ 1 cc ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ว่าคางมีความมนสวยได้รูป เข้ากับใบหน้ามากยิ่งขึ้นค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์คางกับรมย์รวินคลินิกวันนี้! 

อยากฉีดฟิลเลอร์คางให้สวย ออกมาเป็นธรรมชาติ เลือกรมย์รวินท์คลินิก เพราะฉีดฟิลเลอร์ที่รมย์รวินท์คลินิก เรามีเทคนิคขั้นสูงจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับโหวงเฮ้ง เสริมความมั่นใจ เลือกฉีดกับเราถูกใจแน่นอน

ที่สำคัญเราใช้ฟิลเลอร์ของเเท้ จากบริษัทผู้นำเข้า และจัดจำหน่าย ที่สามารถตรวจสอบจากเลข Lot. และจุดสังเกตอื่น ๆ พร้อมทั้งยังนำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้ ทุกเคสของฟิลเลอร์คางฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและเอาใจใส่ในทุกเคส เพื่อให้ได้รูปทรงคางที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ ถูกใจคนไข้ มั่นใจได้เลยว่าฉีดฟิลเลอร์ที่รมย์รวินท์ปลอดภัย แถมผลลัพธ์ปังอย่างแน่นอน


อ้างอิงข้อมูล

Restylaneusa. (May 11, 2023). Restylane-defyne. https://www.restylaneusa.com/restylane-defyne 

Restylaneusa. (May 11, 2023). Restylane-lyft. https://www.restylaneusa.com/restylane-lyft


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้

Related Posts