ฝุ่น ควัน มลภาวะต่าง ๆ ทำร้ายผิวของเราแทบจะตลอดเวลา หากคุณรู้สึกว่าผิวมีความหมองคล้ำ ขาดความกระชับ ความชุ่มชื้นน้อยลง ทาครีมบำรุงเท่าไรก็ยังไม่เห็นผล อาจเป็นเพราะคอลลาเจนใต้ผิวเริ่มผลิตน้อยลงทรีทเม้นท์หน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้กับผิว ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเปล่งปลั่งได้อีกครั้ง
ทรีทเม้นท์หน้า คืออะไร?
การทําทรีทเม้นท์หน้าคือเป็นกระบวนการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก ช่วยให้ใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้น เสริมให้ผิวแข็งแรง ลดสิวผดผืน ป้องกันปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี ทรีทเม้นท์หน้ามีหลากหลายวิธี เช่น การทำทรีตเมนต์เพื่อกระชับใบหน้า การผลัดเซลล์ผิวใหม่ การทาครีมบำรุง และนวดหน้า
ทรีทเม้นท์หน้าใสดีอย่างไร?
การทําทรีทเม้นท์หน้าช่วยให้ผิวหน้ามีความแข็งแรง มีน้ำมีนวล แลดูอ่อนเยาว์ อย่างไรก็ตามทรีทเม้นท์หน้าแต่ละสถานที่ให้บริการจะมีกระบวนการ ใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่เรามักจะทําทรีทเม้นท์หน้าเพื่อผลลัพธ์ ดังต่อไปนี้
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อลดเลือนริ้วรอย
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อให้รูขุมขนเล็กลง
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อลดรอยคล้ำใต้ตา
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อการยกกระชับใบหน้า
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อฟื้นฟูผิวที่ไหม้แดดให้ดีขึ้น
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อทำให้ผิวเปล่งปลั่ง แลดูมีสุขภาพดี
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อลดรอยฝ้า กระ รอยสิว รอยแผลเป็น
- ทรีทเม้นท์หน้าเพื่อลดรอยด่างดำบนผิว ปรับผิวให้สม่ำเสมอ
ทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับใคร
หากคุณเริ่มรู้ว่าทาครีมบำรุงเท่าไร ผิวหน้าก็ยังไม่ดีขึ้น การทําทรีทเม้นท์หน้าสามารถช่วยลดปัญหาผิวของคุณได้ โดยผู้ที่เหมาะกับการทําทรีทเม้นท์หน้า มีดังต่อไปนี้
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอย
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ที่มีพักผ่อนไม่เพียงพอ
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ แลดูไม่สดใส
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ต้องการใช้ผิวหน้าอย่างเร่งด่วน ต้องออกงาน
- การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับผู้ที่ทาครีมบำรุงผิวหน้าแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลช้า
ทรีทเม้นท์หน้ามีแบบไหนบ้าง?
ในปัจจุบันการทําทรีทเม้นท์หน้ามีหลากหลายวิธี แต่ละแบบจะมีข้อดีต่างกันออกไป ซึ่งวิธีที่นิยมนำมาใช้ในโปรแกรมการทำทรีตเมนต์หน้า อาจมีดังนี้
1. ทรีตเมนต์หน้าโดยการทาครีมบำรุง
การทาครีมบำรุงเป็นการทําทรีทเม้นท์หน้าที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างเป็นประจำ แต่วิธีนี้จะช่วยบำรุงผิวแค่ผิวชั้นบน จึงเห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างช้า
2. ทรีตเมนต์หน้าโดยการผลักวิตามินเข้าผิวหน้า
การทำทรีตเมนต์หน้าโดยการผลักวิตามินเข้าผิวหน้าจะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า โฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) ซึ่งเป็นกระบวนการทำงานที่คล้ายกับอัลตราซาวด์ โดยเครื่องจะปล่อยคลื่นความถี่สูงลงบนผิวหน้า หลังจากทาครีมบำรุงและวิตามินแล้ว ช่วยให้ครีมบำรุงสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกยิ่งขึ้น แต่วิธีนี้อาจจะจะต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์
3. ทรีตเมนต์หน้าโดยใช้คลื่นวิทยุ
ทรีทเม้นท์หน้ารูปแบบนี้จะใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency therapy) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในชั้นผิว หากใบหน้าของเราสามารถสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้น จะส่งผลให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ผิวคล้ำเสียจากแดดเริ่มดีขึ้น และอาจทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นได้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามผลลลัพธ์ของการทําทรีทเม้นท์หน้าโดยใช้คลื่นวิทยุขึ้นอยู่กับะสภาพผิวของแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลในครั้งแรก แต่บางคนอาจต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการ
4. ทรีตเมนต์หน้าโดยใช้สารเคมี
ทรีตเมนต์หน้าโดยใช้สารเคมี คือ การทาสารเคมีทิ้งไว้สักระยะจากนั้นลอกออก วิธีนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งน้ำยาเคมีที่ใช้อาจแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้
- Light chemical peels หรือ Superficial peels เป็นกรดอัลฟา ไฮดรอกซี่ ช่วยทำให้ผิวดูสว่างขึ้น
- Medium chemical peels หรือจะใช้กรดไตรคลอโรอะซิติก (Trichloroacetic acid) ช่วยในการลดฝ้า
- Deep chemical peels หรืออาจมีส่วนผสมของสารเคมีฟีนอล (Phenol) ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ดี
วิธีนี้จำเป็นต้องทำโดยผู้ชำนาญการเพราะสามารถเกิดผลข้างเคียงได้ และผลลัพธ์ของทรีตเมนต์หน้าโดยใช้สารเคมีอาจจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล
5. ทรีตเมนต์หน้าโดยใช้อัลตราซาวด์
ทรีทเม้นท์หน้าแบบอัลตราซาวด์จะช่วยยกกระชับผิวให้เต็งตึงได้ โดยคลื่นเสียงเข้าไปทำความร้อนในผิวลึกประมาณ 5 มิลลิเมตร กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนมากขึ้น หากผิวหน้าของเราสร้างคอลลาเจนมากขึ้นผิวหน้าจะกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ ผลลลัพธ์ของการทําทรีทเม้นท์หน้าโดยการอัลตราซาวด์จะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจน หลังจากผ่าน 3-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
6. ทรีตเมนต์หน้าโดยใช้เลเซอร์
การผลัดผิวด้วยเลเซอร์ (Laser resurfacing) ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ลดเลือนแผลเป็น ไฝ และริ้วรอยได้ดี นอกจากนี้ใครที่มีสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผดผืน เลเซอร์ยังสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียของสิวได้อีกด้วย ทรีตเมนต์หน้าโดยใช้เลเซอร์อาจจะต้องทำหลายครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำทรีทเม้นท์หน้า
เมื่อเราได้รู้จักกับการทําทรีทเม้นท์หน้าแบบต่าง ๆ แล้ว ก่อนที่คุณจะทําทรีทเม้นท์หน้าคุณควรทราบข้อควรระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคือง โดยมีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสครับผิว
การทําทรีทเม้นท์หน้าเป็นการผลัดเซลล์เก่าออกไป ทำให้ผิวหน้าค่อนข้างบอบบางและอาจเกิดการแพ้ ระคายเคียงได้ง่ายในช่วงนี้ ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงการสครับผิว 3-4 วันก่อนทำทรีตเมนต์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่โดนแสงแดดเป็นเวลานาน
5 วันก่อนทำทรีตเมนต์คุณควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่โดนแสงแดดเป็นเวลานาน รวมถึงการอาบแดดด้วย เนื่องจากจะทำให้ผิวเกิดอาการไหม้หรือ Sun Burn ได้
- อย่าแว๊กซ์ขนบริเวณใบหน้า
การแว๊กซ์ขนเป็นการทำร้ายผิวชั้นบนที่ค่อนข้างรุนแรง บางคนอาจเกิดอาการแดง อักเสบ และระคายเคืองได้ ฉะนั้นคุณควรหยุดแว๊กซ์ขนบริเวณใบหน้าเป็นเวลา 1-2 วัน
- รู้จักกับสภาพผิวของตัวเอง
คุณควรรู้จักกับสภาพผิวของตัวเองว่าเป็นผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวผสม เพื่อจะได้เลือกคอร์สหรือโปรแกรมทรีตเมนต์หน้าให้เข้ากับผิวเรา
- ไม่ควรแต่งหน้าก่อนมาทำทรีตเมนต์
หากเป็นไปได้ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าก่อนมาทำทรีตเมนต์แนะนำให้ไปหน้าสด หรืออาจจะลงแค่กันแดดพอ
ดูแลตนเองหลังทำทรีทเม้นท์หน้า
สำหรับใครที่พร้อมกับการทําทรีทเม้นท์หน้าแล้ว หลังจากที่คุณได้ทําทรีทเม้นท์หน้าหากคุณอยากให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ควรดูแลตนเองหลังทำทรีทเม้นท์หน้าตามดังนี้
- หลังทำทรีทเม้นท์หน้าคุณควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอ
- หลังทำทรีทเม้นท์หน้าคุณสามารถแต่งหน้าหลังทำได้
- หลังทำทรีทเม้นท์หน้าคุณสามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช้อยู่เป็นประจำได้ตามปกติ
- หลังทำทรีทเม้นท์หน้าคุณควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง
- หลังทำทรีทเม้นท์หน้าคุณควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีและน้ำหอม
- หลังทำทรีทเม้นท์หน้าคุณควรงดการทาครีมที่มีส่วนผสมของเรตินเอ เป็นเวลา 72 ชม.
- หลังทำทรีทเม้นท์หน้าคุณควรงดการสครับผิวหลังทำประมาณ 48 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ผิวบอบบาง
ทำทรีทเม้นท์หน้าที่ไหนดี?
การทําทรีทเม้นท์หน้าเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องรอยเหี่ยวย่น หลุมสิว สิวอักเสบ มีริ้วรอย ผิวไม่เต่งตึง หรือปัญหาผิวอื่น ๆ ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าโดยด่วน หากคุณอยากเห็นผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ควรศึกษาหารีวิวจากผู้ใช้งานจริง และที่สำคัญต้องทําทรีทเม้นท์หน้ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
โปรแกรมทรีทเม้นท์หน้าของเรา
Romrawin ให้บริการทางด้านความงามมานานกว่า 20 ปี เข้าใจปัญหาของแต่ละบุคคล เลือกใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่เหมาะสม วิเคราะห์ปัญหาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมทําทรีทเม้นท์หน้าของเรามีทั้งหมด 5 โปรแกรม ได้แก่
COLOR ICE ทรีตเม้นท์ที่ผลักวิตามิน
เป็นการทําทรีทเม้นท์หน้าโดยใช้พลังงานแสง LED พร้อมผ่อนคลายผิวด้วยเจลความเย็น -15 องศา ซึ่งแสง LED ที่ใช้จะมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- แสงสีแดง
ช่วยทำให้ผิวหน้าของคุณเรียบเนียน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนให้ผลิตออกมามากขึ้น ผิวของคุณจะดูเต่งตึง เปล่งปลั่ง และกระชับขึ้น
- แสงสีฟ้า
เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิว สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดี พร้อมลดอาการอักเสบของสิว นอกจากนี้ยังช่วยทำให้สิวที่เป็นอยู่หายเร็วขึ้น
- แสงสีเหลือง
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำ แลดูไม่สดใส แสงสีเหลืองจะช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสอย่างธรรมชาติ โดยไม่ทำร้ายผิวพร้อมปลอบประโลมผิวด้วย แสงสีเหลืองสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
P-White
เป็นการผลักวิตามินและสารบำรุงผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ทำให้สารบำรุงต่าง ๆ ซึมลึกลงสู่ผิวหน้าได้ดีกว่าการทาครีมปกติ วิตามินที่เราใช้ได้แก่ Vitamin C, Aloe Vera และ Collagen วิธีนี้ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกถึงภายใน ผิวของคุณจะมีความชุ่มชื้นมากขึ้น กระชับเต่งตึง และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
Turbo Bright
เป็นทรีตเมนต์หน้าดีท็อกซ์ผิวด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ช่วยปรับให้ผิวกระจ่างใส ดูดสิ่งสกปรกที่อุดตันผิวบนหน้าออกอย่างหมดจด เผยความสดใสให้กับผิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน และกระชับรูขุมขน นอกจากนี้ยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดสิวอุดตัน สิวอักเสบอีกด้วย
D-White
ทรีทเม้นท์หน้าด้วยนวัตกรรม Electroporation โดยใช้หลักการเปิดผิวหนังชั่วคราวแล้วแพทย์จะให้ยาลงไปใต้ผิวหนัง ซึ่งจะลงลึกกว่าแบบการฉีดยา เป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ ผลักวิตามินเข้มข้นเข้าสู่ผิวหนังโดยไม่ใช้เข็ม ช่วยให้ผิวใส ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูจางลง และช่วยให้ริ้วรอยลดลง วิธีเหมาะกับผู้ที่กลัวเข็ม และคนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย
Mask Miracle
ทรีตเมนต์หน้าด้วยมาส์กเย็น ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดความไม่สม่ำเสมอของสีผิว ปรับให้ผิวสว่างใสขึ้นพร้อมเติมวิตามินที่เป็นประโยชน์ให้กับผิว โดยจะมาส์กทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
รีวิวทำทรีทเม้นท์หน้า
คุณเมย์ โปรแกรม color ice
Color ice คุณแพร
รีวิวทรีตเมนต์หน้าของคุณเบียร์
หลังจากทำโปรแกรมทรีตเมนต์หน้า (COLOR ICE) กับ romrawin รู้สึกผิวหน้าชุ่มชื่น หน้านุ่มสบาย เย็นจริง! ใสขึ้นทันที ฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็ว – คุณรพีวิชญ์ เสงี่ยมวงศ์(เบียร์)
รีวิวทรีทเมนต์หน้าของคุณเอิร์ธและคุณแอ้ม
หลังจากทำโปรแกรมทรีตเมนต์หน้า (COLOR ICE) กับ romrawin รู้สึกผิวกระชับขึ้น เด้งขึ้น ผิวนุ่ม ดูกระจ่างใสมากกว่าเดิม – คุณณัฐนันท์ คุณวัฒน์ (เอิรธ์) และ คุณศิรประภา สุขดำรงค์ (แอ้ม)
รีวิวทรีทเมนต์หน้าของคุณเมย์
หลังจากทำโปรแกรมทรีตเมนต์หน้า (COLOR ICE) กับ romrawin รู้สึกผิวนิ่ม นุ่มเด้ง สบายผิวมาก ๆ เลยค่ะ – คุณธนิษศาศ์ จรัสถนอมพงศ์ (เมย์)
ทรีทเม้นท์หน้าทำอาทิตย์ละครั้งได้ไหม ควรทำบ่อยแค่ไหน?
หากคุณผ่านการทำกิจกรรมหนักๆ มา ควรทำทรีตเมนต์หน้าติดต่อกันสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่สำหรับใครที่ผิวไม่ได้มีปัญหามาก สามารถทำทรีตเมนต์หน้าได้ตามระยะเวลา ดังต่อไปนี้
- ทำทรีตเมนต์หน้าโดยการผลักวิตามิน อาจทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
- ทำทรีตเมนต์หน้าโดยการใช้คลื่นวิทยุ อาจทำทุก 4-6 สัปดาห์
- ทำทรีตเมนต์หน้าโดยการใช้สารเคมี อาจทำทุก 4-6 สัปดาห์
- ทำทรีตเมนต์หน้าโดยการใช้อัลตราซาวด์ อาจทำทุก 4-6 สัปดาห์
- ทำทรีตเมนต์หน้าโดยการใช้เลเซอร์ อาจทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผิวหน้าของแต่ละบุคคลและยังรวมไปถึงการดูแลผิวหน้าของตัวเองด้วย อย่างไรก็ตามการทำทรีตเมนต์ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกที่ดีสำหรับคุณ
ทำทรีทเม้นท์หน้ากับเรา
ทรีตเมนต์หน้าเป็นการดูแลบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก ครอบคลุม จบปัญหาผิวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผิวหมองคล้ำ ผิวไม่กระจ่างใส ผิวระคายเคืองง่าย ผิวขาดความชุ่มชื่น และยังช่วยลดรอยดำ รอยแดง จุดด่างดำได้ดี นอกจากนี้ทรีตเมนต์หน้ายังสร้างความผ่อนคลายให้กับผิว พร้อมปรับสมดุลผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น
Romrawin Clinic เราเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานทั้งสถานที่ บุคลากร และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เปิดให้บริการด้านความงามมานานกว่า 20 ปี วิเคราะห์ปัญหาผิวได้อย่างเชี่ยวชาญ ดูแลเอาใจใส่ลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างดี เพื่อให้คุณพึงพอใจในผลลัพธ์มากที่สุด
นอกจากนี้เรายังมีบริการฉีดเมโสหน้าใส ได้แก่ Rejuran, ฉีดชาแนล และมาเด้คอลลาเจน ซึ่งเป็น Skin Booster ที่มีประโยชน์ต่อผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมความแข็งแรง และยังสามารถลดรอยสิวได้ดีอีกด้วย