Romrawin Melasma Expert (รมย์รวินท์ เมลาสม่า เอ็กซ์เพิร์ท) จัดการฝ้าทุกระดับ ลบรอยดำ เนรมิตผิวออร่าด้วยโค้ดลับผิวกระจ่างใส “โปรแกรมรักษาฝ้า” รังสรรค์โดย แพทย์หญิง ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล แพทย์ผู้อำนวยการ และผู้ก่อตั้ง รมย์รวินท์ คลินิก
สุดยอดโปรแกรมบอกลาปัญหาฝ้าบำรุงลึกถึงเซลล์ผิว และสร้างเซลล์ผิวใหม่ เผยประกายผิวขาว กระจ่างใสเนียนนุ่มน่าสัมผัส ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุค PM 2.5 ที่มีมลพิษทางอากาศมากขึ้นทุกวัน ด้วยเทคนิคการรักษาฝ้า ของ Romrawin Clinic คลินิกรักษาฝ้าอันดับ 1 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี เน้นการรักษาให้ฝ้าหายจริง รอยจางเร็ว เห็นผลจริง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลคนไข้เองทุกเคสด้วยระดับมืออาชีพ แต่ก่อนที่เราจะดูไปโปรแกรมรักษาฝ้า เรามาทำความรู้จักกับ “ฝ้า กระ จุดด่างดำ” กันก่อนดีกว่าว่ามีความแตกต่างกันยังไง เพื่อไปสู่การรักษาที่ถูกต้อง ตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หนึ่งในปัญหาผิวที่เป็นที่หนักใจของผู้หญิงทั่วโลกก็คือ “ฝ้า กระ จุดด่างดำ” เพราะมีรอยสีน้ำตาลหรือดำที่เด่นชัดเจน โดยเฉพาะฝ้าแดด ทำให้สูญเสียความมั่นใจเพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นการเข้าใจเกี่ยวกับฝ้าและการเลือกวิธีการรักษาที่ถูกต้องแบบไม่มีผลข้างเคียง ไม่เพียงช่วยลดเลือนฝ้า แต่ยังทำให้เผยผิวและใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ มีสุขภาพดีในระยะยาว โดยมีบริเวณที่พบฝ้าบ่อยมากที่สุดดังนี้
• โหนกแก้ม
• หน้าผาก
• เหนือริมฝีปาก
• คาง
สาเหตุของการเกิดฝ้า
- UVA / UVB ทั้ง UVA และ UVB และแสงที่ตามองเห็น (Visible Light)เป็นตัวการหลักที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า และยังอาจทำให้ผิวดูหมองคล้ำจากการไหม้หากตากแดดร้อนๆ เป็นเวลานานได้
- ฮอร์โมน ไม่ว่าจะเป็นจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือนหรือจากการได้รับฮอร์โมนจากภายเพิ่มขึ้น เช่น การทานยาคุมกำเนิด การทานยาฮอร์โมน การใช้เครื่องสำอางบางชนิดซึ่งจะมีส่วนทำให้เซลล์เม็ดสีทำงานมากขึ้น จึงเกิดฝ้าได้ง่ายกว่าปกติ
- เครื่องสำอาง ส่วนใหญ่จะมาจากการแพ้เครื่องสำอางและทำให้เกิดการระคายเคือง การอักเสบ ส่งผลให้เป็นรอยดำหมองคล้ำคล้ายฝ้า หรือทำให้ผิวอ่อนแอลงและถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ง่าย
- ยาบางชนิด เช่นในกลุ่มยาที่มีปฏิกิริยาไวต่อแสง (Phototoxic Drugs) หรือยาทาในกลุ่มไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ที่มักจะผสมมาในครีมทาผิวสูตรเร่งผิวขาวที่ไม่ได้มาตรฐาน หากต้องมีการใช้ยาเหล่านี้จำเป็นต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
- พันธุกรรม มีโอกาส 30-50% ที่จะเป็นฝ้าง่ายหากคนในครอบครัวเป็นการได้รับสารอาหารผิดปกติ โดยอาจได้รับสารบางอย่างไม่เพียงพอ หรือได้รับในสัดส่วนเกินพอดี ไม่สมดุล เช่น จะมีการพบการเกิดฝ้าได้ง่ายในผู้ที่มีภาวะการทำงานของตับที่ผิดปกติ หรือขาดวิตามินบี 12 เป็นต้น

ปัจจุบันมีหลายทางเลือกในการรักษา เพื่อลดการเกิด “ฝ้า กระ” ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์หรือการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารเคมีต่าง ๆ ที่มาช่วยปรับสีผิวและช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน
เลเซอร์รักษาฝ้า กระลึก
การใช้เลเซอร์ฝ้า เลเซอร์กระลึก เพื่อรักษาฝ้า กระจะมีความแม่นยำและตรงจุด จึงเป็นที่นิยมได้ปัจจุบันในการรักษาเสริมควบคู่กับการรักษาหลัก เนื่องจากวิธีเลเซอร์เป็นการทำลายเม็ดสี ช่วยแก้ไขปัญหาได้ที่ปลายเหตุ แต่ผิวก็ยังมีการสร้างเม็ดสีอยู่เรื่อยๆ
วิธีนี้อาจมีข้อดีที่ตรงจุด แต่การใช้แสงและเลเซอร์ทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวมีความไวต่อแสง ห้ามโดนแดดหลังการรักษา อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ไปจนถึงความเสี่ยงในการเกิดฝ้าใหม่ที่เป็นได้ง่ายกว่าเดิม มีสีที่เข้มกว่าเดิม รวมไปถึงการเกิดแผลจากการทำเลเซอร์ด้วย
การรักษาฝ้าที่รมย์รวินท์ คลินิก Romrawin Clinic
Melasma Expert Program เฉพาะของรมย์รวินท์ คลินิก Romrawin Clinic ทำหน้าที่เข้าไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสีเมลานิน เพื่อช่วยชะลอโอกาสการเกิดฝ้าทั้งชั้นลึกและชั้นตื้นของผิว ลดรอยดำ ลดความหมองคล้ำ เป็นการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมาดูสดใส เปล่งปลั่งขึ้นจากภายใน
ข้อดีของโปรแกรมรักษาฝ้าที่รมย์รวินท์ คลินิก Romrawin Clinic
ฝ้าดูจางลงตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วและดีกว่าการรักษาฝ้าด้วยวิธีอื่นไม่เป็นอันตราย เพราะที่รมย์รวินท์ คลินิก Romrawin Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยผิวหนัง ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามลักษณะปัญหาผิวของคนไข้ได้ ทำให้เหมาะสำหรับทุกคน ทั้งผู้ที่มีฝ้าจางๆ ไปจนถึงผู้ที่มีฝ้าหนา สีเข้มเห็นชัด นอกจากทำให้ฝ้าจางลงยังช่วยปรับให้ผิวนุ่ม เนียนละเอียดขึ้น
การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมรักษาฝ้า
- หลีกเลี่ยงแสงแดด หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรงเป็นเวลานาน แต่หากจำเป็นจริงๆ ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ขึ้นไป ควรเติมทุกๆ สองชั่วโมง และควรหาที่บังแดดเล็กน้อยอย่างการใส่หมวก หรือพกร่ม
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ในชีวิตประจำวันทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 PA+++ ขึ้นไป
- มีวินัยในการรักษา เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- มีวินัยในการดูแลตัวเองทาครีม รับประทานยา