____สาวไทยมีความกังวลใจกับปัญหาเรื่องฝ้ามากเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นจุดที่เห็นเด่นชัดมากบนใบหน้า อีกทั้งในแต่ละวันเราต้องเผชิญกับปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เกิดฝ้ากระเพิ่มขึ้นอีก เช่น แสงแดดจัด และมลภาวะมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนเลือกวิธีใช้รองพื้น หรือคอนซีลเลอร์ช่วยปกปิด เป็นนั่นเป็นแค่การแก้ปัญหาจากปลายเหตุเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถทำให้ฝ้า กระ หายไปได้จริงๆ ได้
เรามาดูกันดีกว่าว่า ฝ้าเกิดจากอะไร? และสามารถรักษาได้ด้วยวิธีใดได้บ้าง?
หัวข้อ … รักษาฝ้า
ฝ้า เกิดจากอะไร ?



____ฝ้า (Meslasma) คือ ภาวะที่เม็ดสีผิว (Melanin) ผลิตเม็ดสีขึ้นมามากเกินไปส่วนใหญ่เกิดจากการกระตุ้นจากแสงแดด เวลาเราถูกแสงแดดแรงๆ โดยที่ไม่ได้ปกป้องผิวดีพอ ผิวจะรีบผลิตเม็ดสีขึ้นมาเพื่อกรองรังสียูวีเอจากแสงแดด ทำให้เกิดเป็นจุดสีน้ำตาล หรือสีเทาเป็นปื้นๆ ตรงบริเวณที่กระทบแสงแดดโดยตรงทั้งโหนกแก้ม หน้าผาก คาง เป็นต้น
____นอกจากนั้นฝ้าอาจจะเกิดจากพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การรับประทานยาบางชนิด หรือการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารอันตรายต่อผิวก็สามารถเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน
____รูปแบบของฝ้า จะมีทั้งฝ้าแบบตื้น คือเป็นฝ้าที่อยู่บนชั้นหนังกำพร้า ซึ่งจะมีขอบเขตชัด เป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือสีน้ำตาลอ่อน เกิดง่าย และสามารถรักษาให้จางลงได้ง่ายกว่า อีกแบบหนึ่งคือฝ้าแบบลึก ซึ่งเป็นฝ้าที่อยู่ลึกใต้ชั้นผิวหนัง หรือมีความผิดปรกติในชั้นหนังแท้เนื่องจากอยู่ลึก จึงทำให้ดูสีอ่อนกว่า อาจจะดูเป็นสีออกน้ำเงินๆ หรือม่วงๆ และมองเห็นขอบเขตไม่ค่อยชัดเจน ฝ้าชนิดนี้จะรักษาได้ยากกว่าฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด ซึ่งในบางเคสอาจเป็นฝ้าทั้ง 2 แบบผสมกันก็ได้ค่ะ
รักษาฝ้าด้วยวิธีใดได้บ้าง ?
____วิธีที่ดีที่สุด คือควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีผิวที่เพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการเกิดฝ้า แต่เมื่อเกิดปัญหาฝ้าขึ้นมาแล้ว ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญในเรื่องการรักษาฝ้าเสียตั้งแต่เพิ่งเริ่มเป็น เพื่อตัดวงจรการเกิดฝ้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
____ที่ Romrawin Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยวิเคราะห์ปัญหา และวางแผนวิธีรักษาฝ้าของคุณได้อย่างถูกวิธี พร้อมทั้งยังมีการแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังจากการรักษา เพื่อลดอัตราการกลับมาเป็นใหม่ในอนาคตด้วย
____ในส่วนของโปรแกรมรักษาฝ้าสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะฝ้า และลักษณะผิวของคนไข้ว่าเหมาะกับวิธีใด โดยมีวิธีรักษาหลากหลายวิธีดังนี้


- NU PICO จัดการฝ้า และเม็ดสีผิวหมองคล้ำด้วยนวัตกรรม Picosecond Laser
NU PICO คือนวัตกรรม Picosecond Laser ที่จะช่วยแก้ปัญหาความผิดปกติของเม็ดสีผิว เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมไปถึงรอยสัก ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน รูขุมขนเล็กละเอียด ทั้งยังช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นหลุมสิวได้ด้วย ซึ่ง นวัตกรรม Picosecond Laser เป็นการรักษาฝ้าที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง โดยไม่ทำให้ผิวเกิดความร้อน ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้
Picosecond Laser สามารถปล่อยพลังงานแสงตกกระทบผิวในระยะเวลาที่สั้นและเร็วมาก ในระดับ Picosecond (1 ในล้านล้านวินาที) ทำให้เลเซอร์ NU PICO สามารถบีบพลังงานให้สูงขึ้น จนเกิดเป็นคลื่นไปกระแทกเม็ดสีเมลานินให้แตกละเอียดเป็นอนุภาคเล็กๆทันที พลังงานจะโฟกัสไปสลายเม็ดสีของฝ้าได้ทุกประเภท แล้วร่างกายก็จะกำจัดออกไป ข้อดีคือไม่เกิดความร้อนสะสม ซึ่งเครื่องมือเลเซอร์แบบเดิมไม่สามารถทำได้

- Super Smart FEM ตัดวงจรฝ้า หมดปัญหาฝ้าซ้ำซ้อน
โปรแกรมเลเซอร์ Super Smart FEM ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ รอยด่างดำ โดยอ้างอิงจากงานวิจัยที่ระบุว่าสาร Vascular Endothelial Growth Factor หรือ VEGF ที่เป็น Growth Factor ชนิดหนึ่งเป็นอีกสาเหตุของการเกิดฝ้า ซึ่งสาร VEGF นี้จะไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีให้ผลิตเม็ดสีออกมาเพิ่มขึ้น จึงเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดฝ้าได้
โดยโปรแกรมเลเซอร์ Super Smart FEM นี้ จะมีประสิทธิภาพในการไปช่วยลดปริมาณสาร VEGF ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเม็ดสีผิวส่วนเกิน จึงเป็นการตัดวงจรการสร้างเม็ดสี ทำให้ฝ้าเก่าลดเลือนไป และยังช่วยรับมือกับปัญหาฝ้าที่อาจจะเกิดใหม่ซ้ำซ้อนได้
นอกจากนั้นแล้วโปรแกรม ‘Super Smart FEM’ ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ จึงทำให้ผิวจะดูกระชับ เรียบเนียน ริ้วรอยลดลงไปได้ด้วย เมื่อคอลลาเจนฟูเปล่งปลั่งผิวจึงกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
โปรแกรม Super Smart FEM เป็นเลเซอร์มีความนุ่มนวล และปลอดภัยมาก ระหว่างทำจะไม่รู้สึกร้อน หรือเจ็บใดๆ แค่รู้สึกอุ่นๆเท่านั้น หลังทำยังสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ ไม่ต้องหลบแดด การรักษาแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ห่างกัน 2-4 สัปดาห์
- โปรแกรมฉีดยารักษาฝ้า
โปรแกรมนี้เป็นการฉีดตัวยารักษาฝ้าสูตรเฉพาะที่เต็มไปด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ เข้าไปในชั้นผิวตื้นๆ หรือที่เรียกว่าฉีดเมโส ซึ่งเป็นการฉีดตัวยาเข้าเฉพาะจุดเพื่อรักษาฝ้าอย่างเฉพาะเจาะจง ตัวยาจึงออกฤทธิ์ในชั้นผิวหนังที่มีปัญหาโดยตรง และไปยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยอาจจะใช้เทคนิคสะกิดด้วยเข็ม หรือฉีดที่ใต้ผิวไปตรงจุดที่เป็นฝ้ากระ ซึ่งทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น
การฉีดยารักษาฝ้าเป็นวิธีการรักษาที่จะช่วยให้ฝ้าจางลงได้ดี รวมถึงชะลอการกระจายตัวของฝ้า และยับยั้งการเกิดฝ้าใหม่ได้ แต่ยังไม่ใช้วิธีการรักษาที่สามารถทำให้ฝ้าหายไปได้หมด เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และเพื่อให้ฝ้าจางลงมากขึ้นควรกลับมาฉีดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดูแลผิวตัวเองหลังฉีดก็สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เกิดฝ้าใหม่เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ
____การรักษาฝ้าให้หายขาดจริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีวิธีไหนที่สามารถช่วยทำให้หายขาดได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมความงามในปัจจุบันก็สามารถช่วยชะลอการเกิดฝ้า และทำให้ฝ้าดูจางลงได้มาก ซึ่งทุกวิธีล้วนมีขั้นตอนการรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพักฟื้นนาน และเห็นผลได้เร็ว แต่ทั้งนี้ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และคลินิกที่น่าเชื่อถือเท่านั้น จึงจะมั่นใจในความปลอดภัย และรับผลลัพธ์ในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
สามารถปรึกษาเราได้ที่ รมย์รวินท์ คลินิก
???? โทร.080-1539000 และ 080-1549000
???? Line@ : @Romrawinclinic