สิว

สิวอักเสบคืออะไร รักษาอย่างไร

การรักษาและการป้องกันสิวอักเสบ

การรักษาสิวอักเสบก็คือการป้องกัน ปรับพฤติกรรมในการดูแลตัวเอง เช่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารติดมัน รักษาความสะอาดของผิวหน้า อย่าจับผิวหน้าหรือแกะสิว แต่การเกิดสิวบางครั้งก็เกิดจากปัจจัยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ เช่น สาเหตุจากฮอร์โมนหรือพันธุกรรม ซึ่งจะต้องรักษาให้ถูกวิธี

      • การใช้ยาทาและแผ่นแปะสิว 
        ยาทาสิวภายนอกที่นิยม เช่น Benzoyl peroxide (หรือที่เราเรียกกันว่า Benzac) ยาตัวนี้มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อ P.acne และยังช่วยให้สิวอุดตัน ทั้งสิวอุดตันหัวขาวและดำให้หลุดง่ายด้วย หรือยากลุ่ม Retinoid ยากลุ่มนี้มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ เหมาะกับคนผิวมัน ยากลุ่มนี้จะช่วยลดความมันบนใบหน้าทำให้เกิดสิวลดลงด้วย แต่ข้อเสียคือค่อนข้างจะระคายเคือง คนผิวแพ้ง่ายไม่ควรใช้ ช่วยเรื่องการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แนะนำให้ทาเฉพาะจุด พอสิวหายดีแล้วก็หยุดได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อยาด้วย และแผ่นซิลิโคนใสแปะสิว ส่วนมากมักจะมียาที่ลดการอักเสบเฉพาะที่ สามารถใช้ได้ในคนที่มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่หรือหัวช้าง
      • การรักษาด้วยการฉีดสิว
        การฉีดสิว คือ วิธีการนี้เหมาะกับสิวอักเสบที่เป็นเม็ดใหญ่ๆ ที่มีอาการปวด บวม แดง เป็นการช่วยลดการอักเสบ เมื่อการอักเสบลดลงการเกิดรอยแผลเป็นหลังการอักเสบก็ลดลงด้วย แต่การฉีดสิวมีข้อเสีย  คืออาจทำให้เกิดเป็นหลุมบริเวณที่ฉีด แล้วการฉีดปริมาณมากๆ บ่อยๆ ก็ทำให้โครงสร้างของผิวเราเปลี่ยนแปลงจากเดิม ทำให้ผิวอ่อนแอลงได้
      • การรักษาด้วยการกินยา
        ยากินที่ใช้รักษาสิว ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน จึงทำให้การเกิดสิวลดลง แต่ก็มีผลข้างเคียงมากมาย ซึ่งต้องใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
      • รักษาด้วยการกินยาคุมกำเนิด
        ในผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของฮอร์โมน มีฮอร์โมนเพศชายมาก มักจะมีสิวมาก ผิวมัน ขนดก ประจำเดือนมาผิดปกติ การทานยาคุมกำเนิดก็สามารถช่วยปรับฮอร์โมนและลดการเกิดสิวได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรตรวจหาโรคอื่นเพิ่มเติมด้วย เช่น ถุงน้ำในรังไข่ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา

เมื่อเกิดสิว ไม่ควรกด บีบหรือแกะเอง เพราะไม่ใช่สิวทุกเม็ดจะสามารถทำการกดสิวได้ หากกดสิวด้วยวิธีไม่เหมาะสม หรือผู้ทำขาดความชำนาญ อาจทำให้เกิดสิวอักเสบและแผลเป็นได้
หากต้องการกดสิว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง รมย์รวินท์ คลินิก ขอแนะนำโปรแกรม AC Clear I 4 Step กด ฉีด ทรีตเม้นต์ มาส์ก ทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และการใช้ผลิตภัณฑ์ยาและเวชสำอางที่มีคุณภาพรักษาควบคู่กับการทำหัตถการ

รู้ทันสิวอักเสบ จัดการให้อยู่หมัด

 width=

สิวอักเสบ คือ สิวที่มีลักษณะบวม แดง มักมีอาการปวดร่วมด้วย อาจเป็นตุ่มนูนแดงขนาดเล็ก หรือเป็นตุ่มแดงมีหัวหนองสีขาวขุ่นอยู่ตรงกลางร่วมด้วย หรือถ้าขนาดใหญ่มากๆ รู้สึกเจ็บมาก เจ็บตลอดเวลา เวลาคลำเหมือนมีหนองข้างในเราก็จะเรียกเป็น ‘สิวหัวช้าง’กระบวนการเกิดสิวอักเสบเหล่านี้คล้ายกันคือ เกิดจากต่อมไขมันหรือรูขุมขนของเราอุดตัน โดยมีแบคทีเรีย P. acne เป็นตัวกระตุ้นจึงทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบขึ้นมากลายเป็นสิวอักเสบ บางครั้งก่อนจะเป็นสิวอักเสบอาจเป็นสิวอุดตันขึ้นมาก่อน แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการใดๆเตือน สิวอักเสบ มาบุกโดยทันที

รักษาสิวอักเสบ

 width=

สาเหตุของสิวอักเสบ

      1. ปัจจัยทางพันธุกรรม ในครอบครัวที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือ เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ก็มีความเสี่ยงในการเป็นสิวอักเสบมากกว่า และเวลาที่เกิดก็มักจะมีความรุนแรงมากกว่า
      2. ปัจจัยจากฮอร์โมน  ช่วงวัยว้าวุ่นที่ฮอร์โมนเริ่มมีการเปลี่ยนปลงอย่างรวดเร็วก็จะเริ่มเป็นสิว โดยฮอร์โมนเพศที่ทำให้เกิดสิวจะเป็นฮอร์โมนเพศชาย ‘เทสโทสเตอโรน’ โดยส่วนมากจะเริ่มขึ้นในช่วงอายุ 11ปี และมักจะลดลงในช่วงอายุ 30 ปี  โดยผู้หญิงมักเป็นสิวในช่วงมีประจำเดือน หรืออาจเป็นมากในช่วงตั้งครรภ์ ส่วนผู้ชายนั้นหากเป็นสิวแล้วมักมีอาการของสิวอักเสบรุนแรงมากกว่าผู้หญิง
      3. อาหาร  อาหารที่มีความมันมาก อาหารที่มีส่วนประกอบของไกลซีมิค นมวัว มีการสำรวจและงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่าอาหารเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับการเกิดสิวอักเสบ ส่วนอาหารที่ทานแล้วเป็นผลดีช่วยป้องกันและรักษาสิวอักเสบได้ คืออาหารที่มีวิตามินซี วิตามินบีสูง ได้แก่ พวกผักและผลไม้สด
      4. พฤติกรรมการดูแลตัวเองที่ไม่เหมาะสม  ร่างกายที่พักผ่อนไม่เพียงพอ จะมีผลต่อการทำงานของระบบภูมิค้มกันทำให้เป็นสิวง่าย และการทำความสะอาดผิวหน้า ถ้ารักษาความสะอาดไม่ดีก็จะทำให้เกิดสิวอุดตัน และสิวอักเสบก็จะตามมาได้ง่าย  ที่สำคัญคือบางคนมีพฤติกรรมชอบแกะสิว การแกะสิวจะทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายได้เร็ว
สอบถาม ปรึกษาเพิ่มเติมการรักษาได้ที่นี่ค่ะ
080-1539000 080-1549000
Line@ : @Romrawinclinic
 width=

Romrawin Clinic พร้อมให้บริการเสริมความงาม
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในประเทศ

คุณหมอฐา-พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล

คุณหมอฐา-พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล ผู้อำนวยการแห่งรมย์รวินท์คลินิก จบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์หญิงแถวหน้าของเมืองไทยผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลผิวพรรณ ที่มุ่งเน้นเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับการบริการ ผ่านแนวคิด “For The Better You สวยในแบบที่เป็นคุณ”  โดยคำนึงถึงปัญหาของคนไข้ และวิธีการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คำนึงถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาว ปัจจุบันรมย์รวินท์คลินิกมีสาขาถึง 28 สาขา และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังชั้นนำในประเทศไทย

ปัจจุบันรมย์รวินท์คลินิกมีสาขาถึง 28 สาขา และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังชั้นนำในประเทศไทย ที่พร้อมเรียนรู้เทรนความงามใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันอยู่เสมอ

รางวัลการันตีรมย์รวินท์คลินิก

รางวัลการันตีรมย์รวินท์คลินิก
  • Honorary Awards ในงาน HELLO! Beauty Awards 2022 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความงามและสถานการให้บริการด้านความงามผิวพรรณ รวมถึงการดูแลรูปร่างและสุขภาพด้วยเทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน
  • The Most Trusted Botulinum Toxin Treatment Clinic ผู้นำการปรับรูปหน้า ด้วย Botulinum Toxin ตอกย้ำความเป็นในงาน Hello! Beauty Awards 2022
  • Top Allergan Aesthetics Valued Customer 2020 Body Contouring
  • Excellent Allergan Aesthetics Valued Customer 2020 
  • The Thailand Top Achiever for Ultheraphy TDs. : รางวัลยอดใช้ Ultheraphy TDs. สูงสุดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
  • The Platinum Award for Merz German Toxin : รางวัลยอดใช้ Xeomin สูงสุดในไทย ระดับแพตทินั่ม
  • The Platinum Award for Merz Swiss Filler : รางวัลยอดฉีด Swiss Filler สูงสุดในไทย ระดับแพตทินั่ม
  • The Thailand To Achieve for Ultherapy, German Toxin, Swiss Filler
  • The Thailand Fastest Growth for Merz 2020
  • ICONIC ULTHERAPY TREATMENT 2018 จากนิตยสารแพรว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้