บทความ

คำถามยอดฮิต ยกกระชับผิวด้วย Ulthera กับ Thermage แตกต่างกันอย่างไร?

ปัญหาผิวหย่อนคล้อยนั้นเป็นปัญหาหนักใจของใครหลายๆ คนที่อายุเริ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วร้อยทำให้เราดูแก่กว่าวัยอันควร สังเกตได้จากรูปใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป แก้มและใต้คางเริ่มห้อยลง แนวคางและลำคอเห็นแยกไม่ชัดเจนจนไม่มีขอบหน้า หนังตาเริ่มตก หางตาตกทำให้หน้าดูเศร้าหมองไม่สดใส ร่องแก้มลึก ใต้ตาลึก ทำให้ดูเหนื่อย ดูโทรม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังบนใบหน้า แต่ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับหน้าได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำ Ulthera หรือ Thermage

หากเราต้องการยกกระชับผิวเพื่อลดริ้วรอย และลดความหย่อนคล้อยบนใบหน้านั้น การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการยกกระชับผิวที่ทำเพียง 1 ครั้งต่อปี และสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด เราควรเลือกเครื่องมือตัวใดระหว่าง Ulthera กับ Thermage ทั้งสองเครื่องมือนี้เป็นเครื่องที่สามารถยกกระชับผิวลดริ้วรอยที่ทำเพียงแค่ 1 ครั้งต่อปีเหมือนกัน แต่เราจะเลือกทำ Ulthera หรือ Thermage นั้น ก่อนอื่นเราต้องทำทราบก่อนว่า Ulthera และ Thermage มีความแตกต่างกันอย่างไร

Ulthera คืออะไร?

Ulthera คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นเครื่องมือที่ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย. ในประเทศไทย ให้สามารถใช้เครื่องนี้ในการยกกระชับผิวลดริ้วรอยบนใบหน้าและลำคอได้ ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถเห็นผลได้จริง ปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์พลังงานสูงที่ชื่อว่า MFUV (Microfocus Ultherasound with Visualization) เพื่อส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวหนังที่ลึกถึงชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ชั้นผิวที่แพทย์ศัลยกรรมผ่าตัดเพื่อยกกระชับใบหน้า

เมื่อส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิว SMAS แล้ว จะทำให้คอลลาเจนและเซลล์บางส่วนถูกทำลายและหดตัวลง กระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนจัดเรียงตัวใหม่อย่างเป็นระเบียบมากกว่าเดิมและกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ หลังทำจะให้ความรู้สึกถึงผิวที่กระชับแน่น เรียบเนียนมากขึ้น และริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด หรือทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นนั่นเอง หลังจากยกกระชับผิวสามารถเห็นผลได้ทันทีประมาณ 20 – 30% และจะค่อยๆ เห็นผลชัดเจนในระยะเวลา 3 เดือน การทำ Ulthera 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล

คนที่เหมาะกับการยกกระชับผิวลดริ้วรอยด้วย Ulthera

ผิวหน้าลักษณะแบบไหนที่เราควรเลือกวิธีการยกกระชับลดริ้วรอยด้วย Ulthera หลายคนที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย คงอาจจะสงสัยว่าผิวหน้าแบบเราควรเลือกเครื่องมือแบบใดถึงจะเหมาะสม

  1. คนที่มีไขมันบนใบหน้าและลำคอไม่เยอะ
  2. คนที่ต้องการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม
  3. คนที่กรอบหน้าไม่ชัด ไม่เห็นแนวกราม ขอบหน้ากับลำคอเห็นแยกไม่ชัดเจน
  4. คนที่หนังตาตก หางตาตก อยากยกคิ้ว ยกหางตา แต่ยังไม่อยากผ่าตัด
  5. คนที่อยากให้ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากลดลง และบริเวณแก้มทั้งสองข้างยกกระชับขึ้น
  6. คนที่มีลำคอและเนินอกเหี่ยวย่น Ulthera จะทำให้ดูตึงกระชับมากขึ้น
Thermage แตกต่าง Ulthera

Ulthera กับ Thermage ต่างกันอย่างไร

Thermage คือ เทคโนโลยีกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (High Radio Frequency) ชนิดขั้วเดียว (Monopolar) สามารถส่งพลังงานความร้อนลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิว (Subcutis) ช่วยยกกระชับผิว และลดริ้วรอยได้ดี โดยเฉพาะคนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าใต้คางและลำคอเยอะ Thermage เป็นเครื่องมือในการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย. ไทย เช่นเดียวกันกับ Ulthera และเป็นเครื่องมือที่ทำเพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล และ Thermage ยังสามารถทำบริเวณลำตัวได้ เช่น บริเวณท้องแขน หน้าท้อง ต้นขา จะช่วยทำให้ผิวกระชับขึ้นลดไขมันและลดเซลลูไลท์ได้ดี ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียน Thermage หลังทำเห็นผลในทันทีทำให้ใบหน้าดูกระชับและจะค่อยๆ เห็นผลชัดเจนในระยะเวลา 6 เดือน

คนที่เหมาะกับการยกกระชับลดริ้วรอยด้วย Thermage

  1. คนที่ต้องการยกกระชับผิวลดริ้วรอยและมีไขมันบริเวณใบหน้า ใต้คางและลำคอเยอะ
  2. คนที่ต้องการลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง และลำคอ
  3. คนที่ต้องการยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าให้เล็กลง
  4. คนที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย
  5. คนที่ต้องการลดขนาดรอบแขน หน้าท้องเอว รอบขา เพิ่มความตึงกระชับ
  6. ลดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิว

ข้อแตกต่างระหว่าง Ulthera กับ Thermage

  1. Ulthera เป็นคลื่นอัลตร้าซาวด์ Thermage เป็นคลื่นวิทยุความถี่สูง
  2. Ulthera จะส่งพลังงานความร้อนลงถึงชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) จะอยู่ลึกกว่าชั้นไขมันเป็นเนื้อเยื่อสำคัญของกล้ามเนื้อบนใบหน้ามีโครงสร้างเป็นเนื้อเยื่อพังผืดห่อหุ้มกล้ามเนื้อ ส่วน Thermage จะส่งพลังงานความร้อนลงถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis)
  3. Ulthera เหมาะกับคนที่มีผิวหน้าและลำคอที่มีไขมันน้อย ส่วน Thermage จะเหมาะกับคนที่มีไขมันบนใบหน้าและใต้คางหรือเหนียงเยอะ Thermage จะช่วยลดไขมันใต้ชั้นผิว หรือลดเซลลูไลท์ (Cellulite) ได้ดีที่สุด
  4. ลักษณะการส่งพลังงานความร้อนระหว่าง Ulthera กับ Thermage คือ Ulthera จะส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวหนังเป็นลักษณะจุดไข่ปลาเรียงต่อกันเป็นเส้นๆ Thermage จะส่งพลังงานลงสู่ผิวลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ
  5. Ulthera เหมาะกับการยกกระชับผิวได้ดีสุด แต่ไม่เหมาะกับการลดไขมัน เพราะฉะนั้น คนที่มีแก้มยุ้ย ไขมันบริเวณใบหน้าและใต้คางเยอะ จะเหมาะกับ Thermage มากกว่า

ข้อดีที่เหมือนกันของ Ulthera และ Thermage

  1. เป็นการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  2. เครื่องของแท้ทั้ง Ulthera และ Thermage ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ให้ใช้ในการยกกระชับ ลดริ้วรอย ได้อย่างปลอดภัย
  3. ทำเพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่แล้วแต่ละบุคคล อายุ การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเองหลังการรักษาของแต่ละคน สามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้ง
ข้อสงสัย Ulthera

สรุป เทคโนโลยีของทั้งสองไม่ว่าจะเป็น Ulthera หรือ Thermage นั้น ก็มีความปลอดภัยสูง มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือทั้งในประเทศและต่างประเทศเหมือนกันทั้งคู่ ส่วนผลลัพธ์ที่ดีในการรักษานั้น เราต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับสภาพผิวและเลือกให้ตรงกับปัญหาของเราก่อน เพราะหากเราเลือกผิดเราอาจไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ตั้งใจไว้ หากยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกถูกหรือไม่ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ที่คลินิกที่เชื่อถือได้ ว่าควรจะใช้เครื่องแบบใดในการรักษา แพทย์จะสามารถไขข้อข้องใจและสามารถที่จะประเมินสภาพผิวหน้า รวมไปถึงเลือกวิธีและเครื่องมือในการรักษาให้เราได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้นั่นเอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

Tel : 080-1539000
Tel : 080-1549000
Line : @Romrawinclinic

Romrawin Clinic พร้อมให้บริการเสริมความงาม
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในประเทศ

คุณหมอฐา-พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล

คุณหมอฐา-พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล ผู้อำนวยการแห่งรมย์รวินท์คลินิก จบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์หญิงแถวหน้าของเมืองไทยผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลผิวพรรณ ที่มุ่งเน้นเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับการบริการ ผ่านแนวคิด “For The Better You สวยในแบบที่เป็นคุณ”  โดยคำนึงถึงปัญหาของคนไข้ และวิธีการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คำนึงถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาว ปัจจุบันรมย์รวินท์คลินิกมีสาขาถึง 28 สาขา และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังชั้นนำในประเทศไทย

ปัจจุบันรมย์รวินท์คลินิกมีสาขาถึง 28 สาขา และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังชั้นนำในประเทศไทย ที่พร้อมเรียนรู้เทรนความงามใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันอยู่เสมอ

รางวัลการันตีรมย์รวินท์คลินิก

รางวัลการันตีรมย์รวินท์คลินิก
  • Honorary Awards ในงาน HELLO! Beauty Awards 2022 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความงามและสถานการให้บริการด้านความงามผิวพรรณ รวมถึงการดูแลรูปร่างและสุขภาพด้วยเทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน
  • The Most Trusted Botulinum Toxin Treatment Clinic ผู้นำการปรับรูปหน้า ด้วย Botulinum Toxin ตอกย้ำความเป็นในงาน Hello! Beauty Awards 2022
  • Top Allergan Aesthetics Valued Customer 2020 Body Contouring
  • Excellent Allergan Aesthetics Valued Customer 2020 
  • The Thailand Top Achiever for Ultheraphy TDs. : รางวัลยอดใช้ Ultheraphy TDs. สูงสุดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
  • The Platinum Award for Merz German Toxin : รางวัลยอดใช้ Xeomin สูงสุดในไทย ระดับแพตทินั่ม
  • The Platinum Award for Merz Swiss Filler : รางวัลยอดฉีด Swiss Filler สูงสุดในไทย ระดับแพตทินั่ม
  • The Thailand To Achieve for Ultherapy, German Toxin, Swiss Filler
  • The Thailand Fastest Growth for Merz 2020
  • ICONIC ULTHERAPY TREATMENT 2018 จากนิตยสารแพรว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้