สิว, บทความ

Probiotic จุลินทรีย์ดีมีประโยชน์

____เรื่องสิวๆ พูดทีไรก็รู้สึกหงุดหงิดหัวใจตลอด หนุ่มสาวทั้งหลายที่มักประสบปัญหาเรื่อง ‘สิว’ แม้ว่าจะดูยุ่งยากในขั้นตอนการรักษา แต่จะให้หน้าเป็นสิว พร้อมกับมีรอยดำแดงจากซากอารยธรรมของการกดสิว แกะสิวแบบนี้หน้าคงพังไม่เป็นท่า คงได้แต่หาวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ตามงบ ตามเวลาที่เราสะดวก ถูกไหมคะ?

____โดยการรักษาสิวที่นิยมในปัจจุบันนั้นมีทั้งการรักษาด้วยยาทา เลเซอร์ หรือยากินที่มีฤทธิ์การฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ และหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังนิยมในปัจจุบัน คือการนำจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ (Probiotic) หรือที่เราคุ้นเคยอีกชื่อว่า แล็กโตบาซิลลัส ที่อยู่ในนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตนี่แหละค่ะ นำเข้ามาเป็นช่วยในการรักษาสิว

____วิธีนี้ถือเป็นอีกวิธีที่ใช้ข้อดีของแบคทีเรียให้เป็นประโยชน์ นำมาใช้ในการปรับสมดุลร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้ใสไร้สิวจากภายในสู่ภายนอก แถมยังเหมาะกับคนที่มีร่างกายอ่อนแอ ระบบย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกันไม่ดีอีกด้วย

หัวข้อ … Probiotic จุลินทรีย์ดีมีประโยชน์

‘โพรไบโอติกส์’ จุลินทรีย์ดีมีประโยชน์ คืออะไร ?

____โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือจุลินทรีย์ขนาดเล็กซึ่งจัดเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี ที่อาศัยอยู่ในร่างกาย โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก หากมีโพรไบโอติกส์ในร่างกายเยอะ ร่างกายก็จะมีสุขภาพที่ดี เพราะจุลินทรีย์ตัวนี้เป็นตัวที่คอยปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกัน อีกทั้งช่วยดักจับจุลินทรีย์ร้ายและเชื้อโรคต่าง ๆ กระตุ้นระบบย่อยอาหาร การขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้น

____และถ้าหากต้องการเพิ่มโพรไบโอติกส์ในร่างกาย ก็สามารถหาได้จากอาหารจำพวก นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโสะ เป็นต้น นี่จึงถือเป็นวิธีการรักษาสิวอีกอย่างที่หลายคนหันมาใช้ สามารถทำได้ง่ายเพราะเป็นอาหารที่หาได้ตามท้องตลาด หรือร้านสะดวกซื้อ และหากลองคิดภาพตามว่าสำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ สิวเรื้อรัง ใช้เวลารักษานานหลายปี นั่นเป็นเพราะระบบทางเดินอาหารไม่ดี การปรับสมดุลร่างกาย ให้สุขภาพดีขึ้น จึงเป็นการรักษาสิวจากต้นตอที่ดีที่สุด

เช็คร่างกายเราขาดโพรไบโอติกส์หรือเปล่านะ ?

 class=

____หากอยากรู้ว่าร่างกายเรามีโพรไบโอติกส์เพียงพอหรือไม่? ให้เราลองสังเกตตัวเองง่ายๆ เช่น

  • ขับถ่ายยาก ท้องเสีย ท้องผูก
    ท้องเฟ้อ เพราะระบบขับถ่ายเสียสมดุล ผนังลำไส้อักเสบไม่สามารถคัดกรองสารพิษต่างๆ ได้
  • สิวอักเสบ สิวเรื้อรัง ผื่นแพ้ต่างๆ
    เนื่องจากมีของเสียสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดเป็นปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังฟ้องออกมาให้เห็น
  • มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือเป็นหวัดบ่อย
    ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อภูมิคุ้มกันลดลง ร่างกายจึงอ่อนแอลง

____แน่นอนว่าบางคนอาจมีอาการร่วมด้วยทั้งหมด แต่บางคนอาจเผยอาการออกมาแค่บางอย่าง แต่สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายมีโพรไบโอติกส์น้อย ควรได้รับจุลินทรีย์ตัวนี้เข้าไปช่วยปรับสมดุลต่าง ๆ นั่นเองค่ะ

ผลวิจัยโพรไบโอติกส์ รักษาสิวได้จริง!

 class=

____รายงานผลการวิจัยของ Robert H. Siver นายแพทย์จากโรงพยาบาล Union Memorial ในเมืองบอลทิมอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้คนไข้ที่มีปัญหาสิวกินโพรไบโอติก 2 ชนิด คือ กลุ่มตัวอย่างที่กินแล็กโทบาซิลลัส แอซิโตฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) และ กลุ่มตัวอย่างที่กินแล็กโทบาซิลลัส บัลกาลิคัส (Lactobacillus bulgaricus) ซึ่งผลการทดลองพบว่า 80% ของคนไข้ที่เป็นสิวมีอาการดีขึ้น

____นั่นสอดคล้องกับผลการวิจัยที่มาจากประเทศอิตาลี ที่ให้คนไข้ที่เป็นสิวกินโพรไบโอติกส์ ชนิดแอล. แอซิโตฟิลัส (L. acidophilus) และบี. บิฟิตัม (B. bifidum) ในปริมาณ 250 มิลลิกรัม และผลการวิจัยก็พบว่ามีอาการดีขึ้นเช่นเดียวกัน

____ดังนั้นผลการวิจัยจึงได้ข้อสรุปว่า เมื่อร่างกายได้รับโพรไบโอติกส์เข้าไปช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น อาการอักเสบลดน้อยลง ส่งผลให้คนไข้ที่เป็นสิวมีผิวหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งโพรไบโอติกส์ยังช่วยลดจำนวนแบคทีเรียไม่ดีในร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวออกไป

อาหารที่มี ‘โพรไบโอติกส์’ กับข้อควรระวัง!

____การเพิ่มโพรไบโอติกส์ในร่างกาย ทำได้ด้วยการกินอาหารที่มีโพรไบโอติกส์อย่าง นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ซุปมิโซะ น้ำเต้าหู้ หรือของดองเช่น กิมจิ แตงกวาดอง กะหล่ำปลีดอง แต่ควรกินในปริมาณที่พอดี เพราะอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยโซเดียม หากกินโซเดียมมากเกินไปเสี่ยงโรคไต โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ จึงไม่ควรกินมากเกินไปจนอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งการกินมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะช่องลมในท้องเพิ่มขึ้น จนมีอาการท้องอืด แน่นท้องได้

____และแน่นอนว่านอกจากโพรไบโอติกส์ที่สามารถหาได้จากอาหารแล้ว ในปัจจุบันมีการพัฒนาโพรไบโอติกส์ ในรูปแบบอาหารเสริมขึ้นมากด้วย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบผงแป้ง (Powders), รูปแบบแคปซูล (Capsules), รูปแบบยาเม็ดเคี้ยว (Chewable tablets), หรือรูปแบบสารละลาย(Solution drops) เป็นต้น

____แม้องค์กรอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) จะจัดให้เป็นอาหาร ไม่ใช่ยา แต่อาจใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนนะคะ นอกจากไม่ได้ผลแล้วบางคนยังมีผลข้างเคียงด้วย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงความปลอดภัย ว่าควรกินหรือไม่ ในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอต่อร่างกาย เป็นการลดความเสี่ยงเพื่อความปลอดภัยของเราเอง

____โดยผู้ที่ต้องระวังในการกินโพรไบโอติกส์ คือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่เป็นโรคเอดส์ โรคมะเร็ง เพราะอาจเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ จนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งขึ้น

ฉะนั้นแล้วใครที่มองหาวิธีการรักษาสิวอยู่ และรู้สึกว่าสาเหตุหรือต้นตอของการเป็นสิวบ่อยๆ ของเรามันเกิดจากระบบทางเดินอาหารในร่างกายเรานี่แหละ การใช้โพรไบโอติกส์ จึงก็ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ยังไงก็ควรระวังในเรื่องของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับด้วยนะคะ รับแต่พอดีเพราะมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดีเช่นกัน

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
สามารถปรึกษาเราได้ที่ รมย์รวินท์ คลินิก

???? โทร.080-1539000 และ  080-1549000
???? Line@ : @Romrawinclinic

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้