10 วิธีรักษาสิวยอดนิยม เลือกอย่างไรให้เหมาะกับเรา
10 วิธีรักษาสิวยอดนิยม เลือกอย่างไรให้เหมาะกับเรา
ทำไมสิวมักเกิดบนผิว
สิวเป็นปัญหาผิวที่เกิดบนผิวหนังได้บ่อย ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกร่างกาย ทำให้สิวสามารถเกิดได้บ่อย โดยแนวโน้มที่ทำให้เกิดสิวได้บ่อย มีดังนี้
- สิวมักเกิดบนผิวจากการอุดตันของรูขุมขน
- สิวมักเกิดบนผิวจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- สิวมักเกิดบนผิวจากฮอร์โมนในร่างกาย
- สิวมักเกิดบนผิวจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม
- สิวมักเกิดบนผิวจากอาหารและโภชนาการ
สิวสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย การเกิดสิวซ้ำบ่อย ๆ บนผิวอาจเกิดได้จากปัจจัยกระตุ้นหรือการรักษาสิวที่ไม่เหมาะสม
วิธีรักษาสิวควรเริ่มจากอะไร ?
วิธีรักษาสิวควรเริ่มจากอะไร ?
สิวเป็นปัญหาผิวที่ส่งผลต่อความมั่นใจ การรักษาสิวและเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสม จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาและช่วยลดโอกาสการเกิดสิวในระยะยาวได้ โดยวิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการ ทำความเข้าใจประเภทของสิว
วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการรู้ถึงประเภทของสิวก่อน เนื่องจากสิวแต่ละประเภทต้องการการรักษาที่แตกต่างกันออกไป การรู้ถึงประเภทของสิวก่อนการรักษาจะช่วยให้สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้
- วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการ ดูแลความสะอาดของผิวหน้า
วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการดูแลความสะอาดของผิวหน้าอย่างถูกวิธีก่อน เพื่อให้ผิวแข็งแรงและลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองและความมันบนใบหน้า
- วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการ เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม
วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือสารที่ก่อให้เกิดการอุดตัน เพราะผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหรือสารอุดตันรูขุมขนสามารถกระตุ้นการเกิดสิวและทำให้สิวรุนแรงขึ้นได้
- วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้สิวแย่ลง
วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้สิวแย่ลง เช่น สัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ บีบหรือแกะสิว เพราะพฤติกรรมบางอย่างอาจกระตุ้นการเกิดสิว เพิ่มการอักเสบ หรือทำให้สิวหายช้าลง
- วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการ ปรึกษาแพทย์
วิธีการรักษาสิวควรเริ่มจากการปรึกษาแพทย์ เพราะแพทย์ผิวหนังสามารถวินิจฉัยสาเหตุของสิวได้อย่างแม่นยำ และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลได้
การรักษาสิวต้องใช้เวลาและความอดทน เพื่อให้ผิวแข็งแรงแล้วสิวจะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งการเลือกวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสมจะช่วยลดโอกาสเกิดสิวใหม่ในอนาคตได้
การเลือกวิธีรักษาสิว ควรพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง
การเลือกวิธีรักษาสิว ควรพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง
การเลือกวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสมจะช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงของรอยแผลเป็นหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการรักษาสิวได้ โดยการเลือกวิธีการรักษาสิวสามารถพิจารณาได้ จากปัจจัยดังต่อไปนี้
- การเลือกวิธีการรักษาสิว ควรประเมินประเภทของสิว เนื่องจากประเภทของสิวแต่ละประเภทต้องการการรักษาที่ต่างกัน การเลือกวิธีรักษาสิวจึงควรประเมินก่อนว่าเราเป็นสิวประเภทใด
- การเลือกวิธีการรักษาสิว ควรพิจารณาสภาพผิว เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน จึงต้องการวิธีรักษาสิวที่แตกต่างกัน หากเลือกวิธีรักษาสิวที่ไม่สอดคล้องกับสภาพผิว อาจทำให้สิวแย่ลง หรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
- การเลือกวิธีการรักษาสิว ควรพิจารณาระดับความรุนแรงของสิว เนื่องจากสิวเล็กน้อยไปจนถึงสิวรุนแรงแต่ละระดับ ต้องการการดูแลและการรักษาสิวที่แตกต่างกัน หากเลือกวิธีรักษาสิวที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สิวแย่ลงได้
- การเลือกวิธีการรักษาสิวควร เลือกวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสมกับประเภทของสิว เนื่องจากสิวแต่ละประเภทมีสาเหตุและลักษณะการเกิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกวิธีรักษาสิวที่เหมาะสมกับประเภทของสิว จะช่วยให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และป้องกันการเกิดสิวซ้ำได้
การเลือกวิธีรักษาสิวให้เหมาะสมต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย หากลองใช้วิธีรักษาสิวต่าง ๆ แล้วไม่เห็นผล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสมกับตัวเอง
10 วิธีรักษาสิว
10 วิธีรักษาสิว
ในปัจจุบันวิธีรักษาสิวมีหลากหลายวิธี แต่การรักษาสิวด้วยตัวเองจนไปถึงการรักษาสิวโดยแพทย์ โดย 10 วิธีรักษาสิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้
1.วิธีรักษาสิวด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
วิธีการรักษาสิวด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันถือเป็นวิธีที่สำคัญ ที่สามารถช่วยให้สิวลดลง ลดการเกิดสิวที่อาจเกิดซ้ำ และป้องกันการเกิดสิวซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิธีการรักษาสิวด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
- รักษาสิวด้วยการล้างหน้าอย่างถูกวิธีด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และเหมาะกับสภาพผิว
- รักษาสิวด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หรือการแกะสิวด้วยตัวเอง เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้เกิดการอักเสบและสิวลุกลามได้
- รักษาสิวด้วยการเลือกรับประทานอาหารต่อผิวและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยขับสารพิษ และลดการอักเสบ
- รักษาสิวด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ
- รักษาสิวด้วยการหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขนและล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาด เพื่อป้องกันการอุดตันที่ก่อให้เกิดสิว
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวไม่รุนแรง
วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง - วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวเกิดจากพฤติกรรมประจำวัน
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ยารักษาสิวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรง
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้เสริมสร้างให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นสิวซ้ำ
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีหรือยาที่อาจมีผลข้างเคียง
2.วิธีรักษาสิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ซึ่งผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่ใช้ในการรักษาสิว มักมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบ ควบคุมความมัน และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยวิธีการรักษาสิวด้วยผลิตภัณฑ์เวชสำอาง
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือผิวมันในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลสิวควบคู่กับการบำรุงผิว
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยปรับสมดุลผิว ลดความมัน และเสริมเกราะป้องกันผิวได้
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้บางสูตรมีส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูรอยดำ รอยแดงหลังสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ไม่ยาก
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้สามารถใช้ร่วมกับวิธีรักษาอื่นได้
3.วิธีรักษาสิวด้วยการใช้ยาแต้มสิว เป็นวิธีการรักษาสิวเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยม ซึ่งยาแต้มสิวมักมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเร่งให้สิวยุบตัวลง โดยวิธีการรักษาสิวเฉพาะจุดควรปฏิบัติ ดังนี้
- ก่อนใช้นาแต้มสิวควรล้างหน้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนทายา
- การรักษาสิวด้วยการใช้ยาแต้มสิว ควรทาเฉพาะจุดที่เป็นสิว ไม่ควรทาทั่วใบหน้า
- หากรักษาสิวด้วยการใช้ยาแต้มสิ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งหรือลอก
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบ สิวหัวหนอง หรือสิวอุดตันเฉพาะจุด
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาสิวเฉพาะตำแหน่ง
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ควบคู่กับการใช้เวชสำอางในการรักษาสิว
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการใช้ยาแต้มสิว
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์เฉพาะจุดที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในการรักษาสิวอักเสบ
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ใช้งานง่าย พกพาสะดวก เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ราคาไม่แพง และมีให้เลือกหลากหลายตามอาการของสิว
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ใช้ร่วมกับวิธีดูแลผิวอื่น ๆ ได้
4.วิธีรักษาสิวด้วยการโปรแกรมฉีดสิว (Acne Injection) เป็นวิธีรักษาสิวที่เน้นการลดการอักเสบอย่างรวดเร็ว ลดการบวมแดง และช่วยป้องกันรอยแผลเป็นจากการอักเสบ แต่เป็นวิธีการรักษาสิวที่ควรทำโดยแพทย์เท่านั้น
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับสิวอักเสบ สิวหัวช้าง หรือสิวที่มีขนาดใหญ่และเจ็บ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้สิวยุบตัวอย่างรวดเร็ว
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มเกิดแผลเป็นหลุมสิวจากการอักเสบ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องรักษาสิวเฉพาะจุด
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการโปรแกรมฉีดสิว (Acne Injection)
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้สิวจะยุบลงอย่างรวดเร็ว
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยลดอาการอักเสบเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมดูแลผิวหรือการรักษาอื่นได้
10 วิธีรักษาสิว
5.วิธีรักษาสิวด้วยการใช้ยารับประทาน เป็นวิธีการรักษาสิวที่มักใช้ในผู้ที่มีสิวที่มีความรุนแรง ในการควบคุมการผลิตน้ำมัน ลดการอักเสบ และยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว โดยยาที่มักใช้ในการรักษาสิว มีดังนี้
- ยาปฏิชีวนะ
- ยากลุ่มเรตินอยด์
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
- ยาต้านฮอร์โมน
การรักษาสิวด้วยวิธีควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบเรื้อรัง
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวมากกว่าทั่วใบหน้า หลัง หรือหน้าอก
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวจากภาวะฮอร์โมน
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการใช้ยารับประทาน
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยควบคุมการเกิดสิวได้ทั่วทั้งร่างกาย
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ลดการอักเสบและจำนวนเชื้อแบคทีเรียได้ดี
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้สามารถใช้ร่วมกับการรักษาสิวภายนอกได้
6.วิธีรักษาสิวด้วยการทำโปรแกรม AviClear เป็นการรักษาสิวด้วยการใช้พลังงานเลเซอร์ไปยับยั้งต่อมไขมันใต้ผิวหนังที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยลดการผลิตน้ำมันที่ถูกผลิตออกมามากเกินไป ทำให้สิวลดลงได้อย่างต่อเนื่อง และป้องกันการเกิดสิวซ้ำได้อีกด้วย
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวเรื้อรัง หรือสิวอักเสบที่กลับมาเป็นซ้ำบ่อย ๆ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา หรือไม่ต้องการใช้ยารับประทาน
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวจากฮอร์โมน
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการทำโปรแกรม AviClear
- วิธีรักษาสิวด้วยโปรแกรม AviClear เป็นวิธีการรักษาสิวที่ไม่ทำให้ผิวลอกหรือไวต่อแสง
- วิธีรักษาสิวด้วยโปรแกรม AviClear เป็นวิธีการรักษาสิวที่รักษาสิวตั้งแต่ต้นตอ
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีโปรแกรม AviClear มักเห็นผลลัพธ์ยาวนาน หลังการทำต่อเนื่อง 3 ครั้ง
- วิธีรักษาสิวด้วยโปรแกรม AviClear ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องพักฟื้น
- วิธีรักษาสิวด้วยโปรแกรม AviClear ลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7.วิธีรักษาสิวด้วยการทำโปรแกรม Accure Laser เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาสิวเรื้อรัง ด้วยการส่งพลังงานเลเซอร์ลงไปยังต่อมไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อยับยั้งการผลิตน้ำมัน และยังช่วยลดการอักเสบ ปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมันอีกด้วย
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวเรื้อรัง สิวอักเสบ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวซ้ำ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำ เห็นผลในระยะยาว
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการทำโปรแกรม Accure Laser
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยลดการเกิดสิวใหม่และลดการอักเสบของสิวเดิมได้ดี
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้มักเห็นผลในระยะยาวหลังทำต่อเนื่อง
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ลดการผลิตน้ำมันที่ต่อมไขมัน
8.วิธีรักษาสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการดูแลและรักษาสิว
ด้วยการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอาจตกค้างและอุดตันรูขุมขน ทำให้รูขุมขนสะอาด ลดการสะสมของไขมันและแบคทีเรียใต้ผิว
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอุดตัน สิวหัวดำ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาสิว
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนที่เป็นสาเหตุหลักของสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้เห็นผลเร็วในผู้ที่เป็นสิวอุดตันเล็กน้อยหรือสิวหัวดำ
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้สามารถใช้ควบคู่กับวิธีการรักษาสิวรูปแบบอื่นได้
9.วิธีรักษาสิวด้วยการกดหัวสิวโดยแพทย์ เป็นวิธีที่ใช้ในการขจัดสิวอุดตันและสิวอักเสบบางกรณี โดยการกดสิวควรทำโดยแพทย์ เพื่อให้ได้รับการกดสิวที่สะอาด ไม่เป็นอันตราย และถูกหลักอนามัย เพราะการกดสิวที่ถูกต้องจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบ และลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแผลเป็นได้
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอุดตัน สิวหัวขาว หรือสิวหัวดำที่ไม่อักเสบ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอุดตันซ้ำบริเวณเดิม
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถกดสิวเองอย่างถูกวิธี
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่เตรียมผิวสำหรับโปรแกรมการรักษาอื่น
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการกดหัวสิวโดยแพทย์
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ลดการสะสมของแบคทีเรียและไขมันในรูขุมขนได้ดี
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นหรือรอยดำจากการกดสิวผิดวิธีด้วยตัวเอง
- วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยขจัดสิวอุดตันได้
10.วิธีรักษาสิวด้วยการทำทรีตเมนต์ลดสิว เป็นวิธีการดูแลผิวที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีปัญหาสิว ช่วยลดการอุดตัน ลดการอักเสบ ควบคุมความมัน และฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น
วิธีการรักษานี้เหมาะกับ
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือผู้ที่มีสิวหัวดำเล็กน้อยถึงปานกลาง
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง
- วิธีการรักษาแบบนี้เหมาะกับผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาสิวด้วยยาและต้องการฟื้นฟูผิว
ข้อดีของวิธีรักษาสิวด้วยการทำทรีตเมนต์ลดสิว
วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยลดความมันบนใบหน้า ลดการอุดตันของรูขุมขนได้ดี
วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีรักษาสิวด้วยวิธีนี้ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก
วิธีรักษาสิวแต่ละประเภทแตกต่างกันหรือไม่ ?
สิวเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยและมีหลายประเภท ซึ่งวิธีรักษาสิวแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุและความรุนแรงของสิว หากเป็นสิวเล็กน้อย ไม่รุนแรงมาก อาจสามารถรักษาได้ไม่ยากด้วยผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่ช่วยควบคุมความมัน ลดการอุดตัน และลดการอักเสบของผิวหนัง
แต่หากเป็นสิวอักเสบที่มีความรุนแรง อาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ยากลุ่มเรตินอยด์ หรือแม้แต่การรักษาการทำหัตถการ เลเซอร์พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ทั้งนี้ก่อนการเลือกวิธีรักษาสิวควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม และลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นที่อาจเกิดได้จากการรักษาที่ไม่ถูกต้องอีกด้วย
วิธีรักษาสิวตามประเภท
สิวสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) และ สิวไม่อักเสบ (Non-Inflammatory Acne) ซึ่งสิวแต่ละประเภทต้องการวิธีการรักษาสิวที่แตกต่างกัน โดยวิธีการรักษาสิวตามประเภทควรมุ่งเน้นการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- วิธีการรักษาสิวไม่อักเสบ (Non-Inflammatory Acne) เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่เกิดจากการสะสมของน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ซึ่งสิวประเภทนี้จะเป็นสิวที่ไม่มีอาการอักเสบ แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบในภายหลังได้
วิธีการรักษาสิวไม่อักเสบ
การรักษาสิวไม่อักเสบมุ่งเน้นไปที่การควบคุมความมัน ลดการอุดตันของรูขุมขน และผลัดเซลล์ผิวอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดรูขุมขน จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดโอกาสเกิดสิวในระยะยาว
- วิธีการรักษาสิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เป็นสิวที่มีอาการบวมแดงและอักเสบ เนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจนเกิดการอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจแตกเป็นหนองและทิ้งรอยแผลเป็นถาวรได้
วิธีการรักษาสิวอักเสบ
การรักษาสิวอักเสบต้องมุ่งเน้นไปที่ การลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และป้องกันการเกิดสิวซ้ำ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ควบคู่กับการดูแลสุขภาพและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง จะช่วยลดปัญหาสิวและป้องกันรอยแผลเป็นในระยะยาวได้
5 เคล็ดลับการดูแลผิวขณะรักษาสิว
5 เคล็ดลับการดูแลผิวขณะรักษาสิว
การรักษาสิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ นอกจากจะต้องเลือกวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสมแล้ว ควรทำควบคู่ไปกับการดูแลผิวที่ถูกต้อง เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษาและลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ในอนาคต โดยเคล็ดลับการดูแลผิวในขณะที่กำลังรักษาสิวอยู่นั้น สามารถทำได้ ดังนี้
- การดูแลผิวเมื่อรักษาสิว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าและแกะสิว
- การดูแลผิวเมื่อรักษาสิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับผิวที่เป็นสิว
- การดูแลผิวเมื่อรักษาสิว ควรปกป้องผิวจากแสงแดด ไม่มีน้ำมัน และไม่ก่อให้เกิดสิวเพิ่ม
- การดูแลผิวเมื่อรักษาสิว ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์หรือการรักษาสิวที่รุนแรง
- การดูแลผิวเมื่อรักษาสิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์
สรุป
วิธีการรักษาสิวมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการรักษาขั้นต้นด้วยตัวเอง จนไปถึงการรักษาโดยแพทย์ ซึ่งการเลือกวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสมกับประเภทและความรุนแรงของสิวที่เป็น จะช่วยให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและลดโอกาสการเกิดรอยสิวหลังการรักษาสิวได้ ซึ่งการรักษาสิวให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ควรทำอย่างต่อเนื่อง หากรักษาสิวหลายวิธีแล้วสิวไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
นอกจากนี้เมื่อรักษาสิวควบคู่ไปกับการดูแลผิวอย่างถูกวิธี จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำในระยะยาวและช่วยให้การรักษาสิวได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจขึ้นอีกด้วย
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด