สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator คืออะไร? ดีอย่างไร? มีกี่ประเภท? 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator คืออะไร? ดีอย่างไร? มีกี่ประเภท? 

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะค่อย ๆ ผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น และขาดความกระชับ จนเกิดสัญญาณเตือนบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องลึก ความหย่อนคล้อย และความแห้งกร้าน ซึ่งการใช้ “สารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความงาม โดยจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และทำให้ผิวกลับมาอ่อนกว่าวัยอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ วันนี้ รมย์รวินท์คลินิก จะพามาทำความรู้จักกับสารกระตุ้นคอลลาเจนว่า สารกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร? สารกระตุ้นคอลลาเจน ทำงานอย่างไร? สารกระตุ้นคอลลาเจน มีกี่ประเภท? และสารกระตุ้นคอลลาเจน มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง? มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้ค่ะ

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ดีจริงไหม? มีทั้งหมดกี่ประเภท? อัปเดต

 

ทำความรู้จักกับ “คอลลาเจน”

ทำความรู้จักกับ “คอลลาเจน”

 

ทำความรู้จักกับ “คอลลาเจน”

คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนสายยาวชนิดหนึ่งที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย โดยเฉพาะในผิวหนัง กระดูก เส้นเอ็น เส้นผม เล็บ และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งคอลลาเจนมีหน้าที่หลักคล้ายกับกาวที่จะคอยยึดเกาะ และเชื่อมเซลล์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยมีแรงดีดเหมือนกับสปริง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และพยุงโครงสร้างผิวให้ตึงกระชับ อีกทั้ง คอลลาเจนยังสามารถซ่อมแซม และฟื้นฟูเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย

แต่เมื่ออายุมากขึ้น ระดับการผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงเฉลี่ย 1 – 2% ต่อปี ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ทำให้ผิวเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น ริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง และผิวแห้งกร้าน ซึ่งการเพิ่มคอลลาเจนนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแล และฟื้นฟูผิว โดยสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการรับประทานอาหารเสริม การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือแม้แต่การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนเข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อให้ผิวยังคงแข็งแรง เต่งตึง อ่อนกว่าวัย และชะลอการเกิดปัญหาผิวใหม่ในอนาคต

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator คืออะไร?

สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) คือ สารชนิดหนึ่งที่ใช้ในการฟื้นฟูปัญหาผิวที่เกิดขึ้นตามช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย แห้งกร้าน และผิวขาดความกระชับ โดยมีคุณสมบัติหลักในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินตามธรรมชาติของร่างกาย ผ่านการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น เมื่อผิวได้รับการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเหมาะสม จะส่งผลให้ผิวกลับมาแน่นกระชับ ยืดหยุ่น เรียบเนียน และอ่อนกว่าวัยอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ 

ในปัจจุบันมีการคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์กระตุ้นคอลลาเจนให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งในแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีคุณสมบัติ และจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Radiesse, Sculptra, Ultracol, Gouri หรือ Juvelook โดยจะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และมีความยั่งยืน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว โดยไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ 

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

กระบวนการทำงานของสารกระตุ้นคอลลาเจน คือ เมื่อฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนเข้าสู่ผิว สารนี้จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง จากนั้นเมื่อเซลล์ไฟโบรบลาสต์ถูกกระตุ้น จึงเกิดกระบวนการสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่นั้น จะเข้าไปทดแทน และเติมเต็มช่องว่างใต้ผิวหนังในบริเวณที่สูญเสียคอลลาเจนตามช่วงวัย ส่งผลให้ผิวกลับมาแน่นกระชับ ยืดหยุ่น อิ่มฟู และมีโครงสร้างที่แข็งแรงในระยะยาว 

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีกี่ประเภท?

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีกี่ประเภท?

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีกี่ประเภท?

ปัจจุบันสารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator มีหลากหลายประเภท ซึ่งโดยส่วนใหญ่ สารกระตุ้นคอลลาเจนที่นิยมใช้ มีดังนี้

  • สารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท CaHA (Calcium Hydroxylapatite)

สารกระตุ้นคอลลาเจน CaHA (Calcium Hydroxylapatite) จัดอยู่ในกลุ่ม Biostimulator เป็นสารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อเลียนแบบสารประกอบแร่ธาตุในกระดูก และฟันของมนุษย์ โดยมีลักษณะเป็นทรงกลมสม่ำเสมอในรูปแบบ Microsphere ขนาดอนุภาค 25 – 45 ไมครอน ซึ่งสารกระตุ้นคอลลาเจน CaHA นั้น จะเข้าไปทำหน้าที่ในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้เริ่มผลิตเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินขึ้นมาใหม่โดยตรง ไม่ผ่านกระบวนการอักเสบในร่างกาย ทำให้เกิดการเพิ่มสารที่มีความสำคัญต่อผิวถึง 5 องค์ประกอบ ได้แก่ Collagen Type 1, Collagen Type 3, Elastin, Proteoglycan และ Angiogenesis ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดี อ่อนกว่าวัย และตึงกระชับอย่างยาวนาน หลังจากนั้นสารกระตุ้นคอลลาเจน CaHA จะค่อย ๆ ย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย 

  • สารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท PLLA (Poly-L-Lactic Acid)

สารกระตุ้นคอลลาเจน PLLA (Poly-L-Lactic Acid) จัดอยู่ในกลุ่ม Biostimulator เป็นสารสังเคราะห์ชนิดโพลีเมอร์ที่สกัดมาจากพืช ซึ่งเป็นวัสดุเกรดทางการแพทย์ ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย โดยสารกระตุ้นคอลลาเจน PLLA นั้น จะเข้าไปทำหน้าที่ในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้เริ่มผลิตเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ผ่านการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว หรือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่งผลให้เกิดการเพิ่ม Collagen Type 1 และทำให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่น ตึงกระชับ รวมถึง แข็งแรงจากภายใน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาว

  • สารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท PDO (Polydioxanone)

สารกระตุ้นคอลลาเจน PDO (Polydioxanone) จัดอยู่ในกลุ่ม Biostimulator เป็นสารสังเคราะห์ชนิดโพลีเมอร์ ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากเส้นไหม PDO แบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นไหมละลายทางการแพทย์ ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย โดยนำไปเข้ากระบวนการ Nano Technology ทำให้ได้สารกระตุ้นคอลลาเจน PDO ที่มีขนาดเล็กในรูปแบบ Microsphere และเปลี่ยนสภาพเป็นผงสีขาวที่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งสารกระตุ้นคอลลาเจน PDO นั้น จะเข้าไปทำหน้าที่ในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้เริ่มผลิตเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ผ่านการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว หรือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้เกิดการเพิ่ม Collagen Type 1 และ Collagen Type 3 อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว

  • สารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท PCL (Polycaprolactone)

สารกระตุ้นคอลลาเจน PCL (Polycaprolactone) จัดอยู่ในกลุ่ม Biostimulator เป็นสารสังเคราะห์ชนิดโพลีเมอร์กึ่งผลึก ซึ่งเป็นไหมละลายทางการแพทย์ ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย โดยนำมาพัฒนาต่อยอดด้วยเทคโนโลยี CESABP ทำให้ได้สารกระตุ้นคอลลาเจน PCL ในรูปแบบของเหลว (Fully Liquid) โดยปราศจากสาร Microparticle จึงไม่ต้องนำมาละลายน้ำก่อนใช้ ซึ่งสารกระตุ้นคอลลาเจน PCL นั้น จะเข้าไปทำหน้าที่ในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้เริ่มผลิตเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ผิวแน่นฟู กระชับ และแข็งแรงจากภายใน โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

  • สารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท PDLLA (Poly-D,L-Lactic Acid)

สารกระตุ้นคอลลาเจน PDLLA (Poly-D,L-Lactic Acid) จัดอยู่ในกลุ่ม Biostimulator เป็นสารสังเคราะห์ชนิดโพลีเมอร์ที่สกัดมาจากธรรมชาติ ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจาก Biodegradable Polymer ที่ผสานโครงสร้างระหว่าง D-form และ L-form ทำให้สารกระตุ้นคอลลาเจน PDLLA สามารถยึดเกาะในชั้นผิวได้ดี โดยมีลักษณะเป็นอนุภาคทรงกลมที่มีรูพรุนรอบ ๆ คล้ายฟองน้ำ ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย โดยสารกระตุ้นคอลลาเจน PDLLA นั้น จะเข้าไปทำหน้าที่ในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้เริ่มผลิตเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ผ่านการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว หรือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้เกิดการเพิ่ม Collagen Type 1 มากขึ้น ส่งผลให้ผิวตึงกระชับ เรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดก้อนหลังฉีด

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ยี่ห้อไหนดี?

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ยี่ห้อไหนดี?

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ยี่ห้อไหนดี?

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม มีดังนี้

  • Radiesse

Radiesse เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator ที่ใช้ส่วนประกอบของ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) และ CMC (Carboxymethylcellulose) ซึ่งได้รับการพัฒนา และผลิตจากบริษัท Merz Aesthetics โดยมียอดใช้งานทั่วโลกมากกว่า 15 ล้านไซริงค์ และมีงานวิจัยตีพิมพ์กว่า 250 ฉบับ อีกทั้ง ยังผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (อย.) ตั้งแต่ปี 2006 ซึ่ง Radiesse นั้น มีจุดเด่นในเรื่องของการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก เพิ่มปริมาตรให้ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับการนำมาฉีดบริเวณหน้าแก้ม ร่องแก้ม ขมับ กรอบหน้า และหลังมือ โดยส่วนใหญ่การฉีด Radiesse จะสามารถคงสภาพของผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

  • Sculptra

Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator ที่ใช้ส่วนประกอบของ PLLA (Poly-L-Lactic Acid), CMC (Carboxymethylcellulose) และ Mannitol ซึ่งได้รับการพัฒนา และผลิตจากบริษัท Galderma Laboratories, L.P. โดยมีงานวิจัยตีพิมพ์กว่า 50 ฉบับ และเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวแรกของโลกที่ผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (อย.) ตั้งแต่ปี 1999 ซึ่ง Sculptra นั้น มีจุดเด่นในเรื่องของการยกกระชับผิว ฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสำหรับการนำมาฉีดบริเวณหน้าแก้ม ขมับ และกรอบหน้า โดยส่วนใหญ่การฉีด Sculptra จะสามารถคงสภาพของผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

  • Ultracol

Ultracol เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator ที่ใช้ส่วนประกอบของ PDO (Polydioxanone) และ CMC (Carboxymethylcellulose) ซึ่งได้รับการพัฒนา และผลิตจากบริษัท Ultra V Medical Aesthetic ร่วมกับ Seoul University Hospital และ Chung-Ang University Hospital ทั้งยังผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (อย.) อีกด้วย โดย Ultracol นั้น มีจุดเด่นในเรื่องของการเพิ่มความหนาแน่นให้ผิว ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส พร้อมลดเลือนริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน เหมาะสำหรับการนำมาฉีดบริเวณใต้ตา หน้าแก้ม ขมับ ร่องแก้ม และร่องมุมปาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่การฉีด Ultracol จะสามารถคงสภาพของผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 6 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

  • Gouri

Gouri เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator ที่ใช้ส่วนประกอบของ PCL (Polycaprolactone) ซึ่งได้รับการพัฒนา และผลิตจากบริษัท DEXLEVO ทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานจาก องค์การอาหารและยา (อย.) อีกด้วย ซึ่ง Gouri นั้น มีจุดเด่นในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก เพิ่มความหนาแน่น และปรับปรุงคุณภาพผิว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างแลดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการนำมาฉีดบริเวณทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ โดยส่วนใหญ่การฉีด Gouri จะสามารถคงสภาพของผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

  • Juvelook

Juvelook เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Hybrid Biostimulator ที่ใช้ส่วนประกอบของ PDLLA (Poly-D,L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งได้รับการพัฒนา และผลิตจากบริษัท Huons ทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานจาก องค์การอาหารและยา (อย.) อีกด้วย ซึ่ง Juvelook นั้น มีจุดเด่นในเรื่องของการกระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอย ปรับสีผิวให้กระจ่างใส พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน เหมาะสำหรับการนำมาฉีดบริเวณหน้าผาก ใต้ตา ร่องแก้ม และลำคอ โดยส่วนใหญ่การฉีด Juvelook จะสามารถคงสภาพของผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีคุณสมบัติอย่างไร?

สารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator ในแต่ละประเภท จะมีคุณสมบัติ และจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ คุณสมบัติที่ได้จากการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน มีดังนี้

  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสตินตามกระบวนการธรรมชาติ
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ บนใบหน้า
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง และกระชับมากขึ้น
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยฟื้นฟู และพยุงโครงสร้างผิวให้มีความแข็งแรง
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของผิว ทำให้ผิวมีวอลลุ่ม และดูอิ่มฟู
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยจากภายใน
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยกระชับรูขุมขน และเติมเต็มหลุมสิว ทำให้ผิวมีความเรียบเนียน
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ และแต่งหน้าติดทนมากขึ้น
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำของผิว
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ช่วยชะลอ และป้องกันการเกิดปัญหาผิวก่อนวัย เช่น ริ้วรอย ร่องลึก และความหย่อนคล้อย

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับใคร?

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับใคร?

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับใคร?

  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึก และรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ห้อยย้อย ไม่ตึงกระชับ
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวขาดคอลลาเจนจากอายุที่มากขึ้น
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวหลวม ขาดความอิ่มฟู 
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีโครงสร้างผิวไม่แข็งแรง
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ดูแก่กว่าวัย
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวโทรม ขาดน้ำ
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง รูขุมขนไม่กระชับ
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีหลุมสิว รอยแผลเป็น ผิวไม่เรียบเนียน
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการชะลอความเสื่อมสภาพของผิว
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการดูแลผิวในระยะยาว

ทั้งนี้ ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่กำลังรับประทานเป็นประจำ

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ไม่เหมาะสำหรับใคร?

  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่อยู่ในระยะของการตั้งครรภ์
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่อยู่ในระยะของการให้นมบุตร
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาเลือดไหลออกง่าย
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้สารกระตุ้นคอลลาเจน
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการผิวอักเสบ และติดเชื้อบริเวณที่ฉีด 
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วอย่างชัดเจน 

ทั้งนี้ ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่กำลังรับประทานเป็นประจำ

 

วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator

  • ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ที่มีความรู้ และความชำนาญ เพื่อประเมินปัญหาผิวก่อนฉีด
  • ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการรับประทานอาหารเสริม หรือยาที่มีผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด
  • ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ 
  • ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ สครับ ขัดผิว และแว็กซ์ขน
  • ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการใช้ผลิตภัณฑ์ หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว
  • ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการออกกำลังกายหักโหม และทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น
  • ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ

 

วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator

  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการใช้เครื่องสำอาง และแต่งหน้าบริเวณที่ฉีด
  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน หลีกเลี่ยงการสัมผัส และกดนวดแรง ๆ บริเวณที่ฉีด
  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการสัมผัสความร้อน และโดนแสงแดดแรง ๆ 
  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ 
  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ สครับ ขัดผิว และแว็กซ์ขน
  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการใช้ผลิตภัณฑ์ หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว
  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน งดการออกกำลังกายหักโหม และทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น
  • หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน

 

ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator

ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator

 

ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator

  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ริ้วรอย ร่องลึกดูตื้นขึ้น
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแน่นฟู ดูมีวอลลุ่ม
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเรียบเนียน มีความละเอียด
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่น
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ดูสดใส
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้รูขุมขนกระชับ หลุมสิวตื้นขึ้น
  • สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวสุขภาพดี ดูอ่อนกว่าวัย

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator อันตรายไหม?

สารกระตุ้นคอลลาเจนในกลุ่ม Biostimulator ไม่ว่าจะเป็น CaHA, PLLA, PDO, PCL และ PDLLA ถือเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และเข้ากันได้ดีกับร่างกาย จึงไม่เสี่ยงอันตราย หากได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ และความชำนาญภายในคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมถึง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กระตุ้นคอลลาเจนที่ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (อย.) เช่น Sculptra, Radiesse, Ultracol, Gouri หรือ Juvelook

 

สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีผลข้างเคียงอย่างไร?

ผลข้างเคียงจากการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนในกลุ่ม Biostimulator โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งสามารถหายได้เอง ภายใน 1 สัปดาห์ ดังนี้

  • บวมแดง
  • รอยช้ำ
  • ปวดตึง
  • คัน ระคายเคืองผิว 

ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดผลข้างเคียงอันตรายจากการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน เช่น ผิวเปลี่ยนสี เกิดก้อนแข็ง มีผื่นแดง หรือบวมผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมโดยด่วน 

 

สารกระตุ้นคอลลาเจนกลุ่ม Biostimulator ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่ตอบโจทย์สำหรับการดูแลผิวในระยะยาว ด้วยคุณสมบัติ และกลไกการทำงานที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ และครอบคลุม ทั้งการลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับผิว ฟื้นฟูโครงสร้างผิว และปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ โดยให้แพทย์ประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด พร้อมวางแผนในการเลือกผลิตภัณฑ์กระตุ้นคอลลาเจนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และน่าพึงพอใจค่ะ

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนดสารกระตุ้นคอลลาเจน

[elementor-template id="15452"]