เลเซอร์กำจัดขน

ผิวพัง!! เพราะกำจัดขนผิดวิธี

เมื่อขนขึ้นในที่ไม่พึงประสงค์ หรือขึ้นมาตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมากเกินไป ย่อมส่งผลถึงบุคลิกและลดทอนความมั่นใจของสาวๆ การกำจัดขนด้วยตัวเองหลากหลายวิธีจึงเข้ามาเป็นตัวเลือก ทั้งถอน โกน แว๊กซ์ ครีมกำจัดขน เพราะสามารถทำได้เองได้ง่ายๆ กำจัดขนออกไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก

หัวข้อ … ผิวพัง

กำจัดขนด้วยตัวเองวิธีใดได้บ้าง?

 class=

การกำจัดขนด้วยตัวเองแต่ละวิธีนั้นมีข้อดี ข้อเสีย และมีเทคนิคที่แตกต่างกัน ซึ่งหากทำโดยใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง หรือจัดขนผิดวิธี ก็สามารถทำให้ผิวพังได้เลยทีเดียว เรามาดูเทคนิค ข้อดี และข้อเสียของแต่ละวิธีกันดีกว่าค่ะ

  • การถอน : วิธีนี้เป็นการใช้เครื่องมือในการหนีบเส้นขนออกมาจากผิวแบบทั้งเส้น เหมาะกับบริเวณที่มีขนไม่มาก เทคนิคสำคัญของวิธีนี้คือ อุปกรณ์ต้องสะอาดเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ และดึงเส้นขนด้วยแรงทิศทางที่เหมาะสมจนหลุดออกมาทั้งเส้น อย่าให้เส้นขนขาด ผลลัพธ์ของการกำจัดขนด้วยวิธีการถอนจะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน แล้วก็จะมีเส้นขนงอกขึ้นมาใหม่
    • ข้อดี – สะดวก ง่าย ประหยัด ทำเองได้ที่บ้าน
    • ข้อเสีย – ค่อนข้างเจ็บ ปวดตา เมื่อยคอ เพราะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะถอนออกทีละเส้น อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดขนคุด หรือตุ่มหนังไก่ได้มาก เนื่องจากรูขุมขนถูกดึงอย่างรุนแรง อาจทำให้รูขุมขนอักเสบ บวมแดง และอาจเกิดการติดเชื้อจนเกิดเป็นสิวขนคุดได้
  • การโกน : แม้วิธีการโกนจะเป็นวิธีการกำจัดขนได้แบบชั่วคราวมากๆ มีขนขึ้นมาใหม่เร็วมาก แต่ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เทคนิคการโกนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรโกนในตอนที่ขนเปียก หรือโกนในช่วงอาบน้ำ ใช้น้ำอุ่นช่วยด้วยจะดีมาก เพราะจะช่วยทำให้เส้นขนนิ่มลง ทำให้โกนได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญคือมีดโกนต้องสะอาด เปลี่ยนใบมีดโกนบ่อยๆให้คมอยู่เสมอ เพราะถ้าไม่คมโกนซ้ำไปซ้ำมาจะยิ่งระคายเคือง ควรโกนไปตามแนวเส้นขน และอย่าลงน้ำหนักแรงมากจนเกินไป
    • ข้อดี – สะดวก ง่าย ประหยัด กำจัดขนในบริเวณพื้นที่กว้างๆได้อย่างรวดเร็ว
    • ข้อเสีย – ขนขึ้นใหม่เร็ว อยู่ได้ประมาณ 2-3 วัน ใบมีดขูดผิวทำให้ผิวระคายเคือง เสี่ยงต่อผิวหนังอักเสบติดเชื้อ เกิดตุ่ม ผื่นแดง และตุ่มขนคุด อีกทั้งการเสียดสีของใบมีดโกนบ่อยๆ จะทำให้เกิดรอยดำคล้ำที่ผิวตามมา
  • การแว๊กซ์ : เป็นวิธีกำจัดขนที่ได้ผลคล้ายกับการถอน แต่จะเป็นการถอนดึงขนออกด้วยขี้ผึ้งร้อนที่มีความเหนียวจับกับขนวางทับด้วยผ้าแล้วดึงขนออกได้ทีเดียวหลายๆเส้น เทคนิคการใช้แว๊กซ์ร้อนคือ ขนต้องมีความยาวประมาณที่เหมาะสมให้ขี้ผึ้งเกาะขนได้ ไม่สั้นเกินไป คือต้องยาวประมาณ 1/3 นิ้ว และไม่ยาวเกินไป ถ้ายาวเกินไปต้องตัดออกก่อน อย่าลืมประคบเย็นก่อนแว๊กซ์สักนิดจะช่วยลดการระคายเคืองและความเจ็บปวดได้บ้าง ทำความสะอาดผิวให้ดีกันการติดเชื้อ ทาแว๊กซ์ไปตามแนวขน และดึงออกทางทิศตรงกันข้ามของการงอกของเส้นขน ถึงจะสามารถดึงขนออกมาได้หมดทั้งเส้น ผลลัพธ์ของการแว๊กซ์ขนใกล้เคียงกับการถอน คือจะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน แล้วจึงมีขนใหม่ขึ้นมา
    • ข้อดี – สะดวก ง่าย ประหยัด กำจัดขนได้ทุกส่วนในร่างกาย ทำเองได้ที่บ้าน ดึงขนออกทีละหลายเส้น และขนงอกช้ากว่าวิธีการโกน
    • ข้อเสีย – เจ็บ และทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองค่อนข้างมาก ยิ่งถ้าทำในบริเวณที่ผิวบอบบางอาจจะเกิดผิวอักเสบรุนแรงขึ้นได้ อาจเกิดอาการรูขุมขนอักเสบ ทำให้เกิดขนคุด และทำให้ผิวบางไวต่อแดดมากขึ้น ไม่ควรทำแล้วออกแดดทันทีจะทำให้ผิวระคายเคือง และไหม้เบิร์นได้ง่าย
  • ครีมกำจัดขน : ครีมกำจัดขนคือ ครีมที่มีส่วนผสมของตัวยากำจัดขน แคลเซียม ไทโอไกลโคเลท (Calcium Thioglycolate) หรือโซเดียม ไทโอไกลโคเลท (Sodium Thioglycolate) อยู่ในเนื้อครีม เมื่อทาครีมไปที่เส้นขน ตัวยาจะไปละลายโครงสร้างโปรตีนเคราตินในเส้นขน ทำให้เส้นขนละลายขาดออกจากกันจนสามารถเช็ดแล้วหลุดออกมาได้โดยง่าย แต่จะสามารถกำจัดเส้นขนได้เฉพาะที่งอกออกมาอยู่เหนือผิวหนังเท่านั้น รากผมยังอยู่ใต้ผิวเหมือนเดิม เทคนิคคือการเตรียมผิวให้ดี อย่าลืมเทสก่อนว่าแพ้หรือไม่ ดูวิธีใช้บนฉลากผลิตภัณฑ์ให้ละเอียด เช็ดออกตามคำแนะนำที่กำหนดไว้ในฉลาก ไม่เช็ดออกเร็วหรือช้าเกินไป ระวังไม่ใช้ครีมบริเวณที่ผิวบอบบาง หรือมีแผล จะทำให้เกิดการระคายเคืองมาก สำหรับผลลัพธ์จะคล้ายกับวิธีการโกน คือขนหายไปไม่เกิน 2-3 วัน ก็งอกขึ้นมาใหม่
    • ข้อดี – สะดวก ง่าย เร็ว ไม่เจ็บ ทำเองได้ที่บ้าน
    • ข้อเสีย – ขนขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน มักจะมีกลิ่นแรงและฉุน อีกทั้งครีมกำจัดขนมีฤทธิ์เป็นด่างสูง หากสัมผัสกับผิวหนังเป็นเวลานานๆอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ และยังเสี่ยงต่อการแพ้ส่วนผสมต่างๆที่ผสมอยู่ในเนื้อครีม รวมถึงมักใช้ไม่ได้ผลตรงบริเวณที่ขนมีเส้นใหญ่และหยาบ

หยุดทุกความเสี่ยงผิวพัง
ด้วยเลเซอร์กำจัดขนถาวร

จะเห็นได้ว่าทุกวิธีกำจัดขนด้วยตัวเองที่ว่าง่ายๆ แต่ก็ต้องอาศัยเทคนิคไม่น้อยเพื่อที่จะเลี่ยงความเสี่ยงจากการเกิดผลข้างเคียงที่อาจจะทำให้ผิวพัง ปัจจุบันมีทางเลือกที่ในการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า นั่นก็คือ เลเซอร์กำจัดขนถาวร ที่ทำให้ไม่ต้องมาเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการกำจัดขนเองด้วยตัวเองแบบผิดวิธี ไม่เสี่ยงผิวพัง ไม่ต้องเสี่ยงต่อผิวหนังอักเสบ ขนคุด หรือตุ่มหนังไก่ใดๆ อีกทั้งยังมีความสามารถในการช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นอีกด้วยค่ะ

เลเซอร์กำจัดขนทำงานอย่างไร?

 class=

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ จะเป็นการยิงแสงเลเซอร์ไปที่รากขน โดยจะเกิดพลังงานความร้อนในการทำลายเส้นขนและรากขนตรงที่มีเม็ดสีเมลานิน มีผลให้รากขนค่อยๆฝ่อตัวลงและหลุดร่วงไปในที่สุด เลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ และให้ผลระยะยาว หากเข้าโปรแกรมเป็นประจำสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะสามารถกำจัดขนออกไปได้อย่างถาวร อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกำจัดขนผิดวิธีด้วยตัวเองให้หมดไปได้อีกด้วย

ทั้งนี้ในปัจจุบัน มีการใช้เลเซอร์ที่ใช้ในทางการแพทย์ในการกำจัดขนกันอยู่หลายชนิด ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าคลินิกหรือแพทย์ผู้ทำการรักษา มีความเชี่ยวชาญเรื่องเลเซอร์กำจัดขนหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

เลเซอร์กำจัดขน
กับผู้เชี่ยวชาญที่ Romrawin Clinic

Romrawin Clinic ใช้เทคโนโลยีกำจัดขนด้วย Gentel Yag Laser เทคโนโลยีกำจัดขนที่ได้ผลดี อ่อนโยน และปลอดภัยที่สุดในขณะนี้ พร้อมทั้งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์กำจัดขนโดยเฉพาะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเลเซอร์ที่มีความชำนาญและประสบกาณ์สูง ซึ่งจะออกแบบการรักษา และปรับความเข้มข้นของพลังงานได้อย่างเหมาะสมกับสภาพเส้นขน และสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการได้แม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับคนไข้ในทุกๆเคส

นอกจากนั้น ยังมีขั้นตอนของการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์กำจัดขน ด้วยทรีทเม้นท์ P-White ที่เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ในการผลักวิตามินเข้าสู่ชั้นผิว เพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง พร้อมบำรุง และฟื้นฟูสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้นอีกด้วยค่ะ

หากใครที่กำลังหาตัวช่วยในการกำจัดขนที่ดีกว่า และยั่งยืนกว่า โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงกับผิวพัง หรืออาการข้างเคียงต่างๆหลังการกำจัดขนด้วยตัวเอง ก็สามารถไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์กำจัดขนได้ ที่ Romrawin Clinic ทุกสาขาค่ะ

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
สามารถปรึกษาเราได้ที่ รมย์รวินท์ คลินิก

???? โทร.080-1539000 และ  080-1549000
???? Line@ : @Romrawinclinic

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้