กระชับสัดส่วน

เทรนนิ่งกล้ามเนื้อลำตัว ป้องกัน Office Syndrome

____ความเร่งรีบในปัจจุบันทำให้เราต้องแข่งขันกับเวลา อีกทั้งยังต้องทำงานต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆ ทำอิริยาบถเดิม ยืนท่าเดิม นั่งท่าเดิม ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆทุกวันเป็นเดือน เป็นปี ซึ่งไลฟ์สไตล์แบบนี้มักมาพร้อมกับความเครียดที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้คนรุ่นใหม่วัยทำงานหลายต่อหลายคน เกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง จากโรคยอดฮิตอย่าง ‘Office Syndrome’

หัวข้อ … ป้องกัน Office Syndrome

รู้จัก ‘Office Syndrome’ ให้มากขึ้นอีกนิด

 class=

____หลายคนมีความเข้าใจว่า ‘Office Syndrome’ เป็นแค่อาการปวดกล้ามเนื้อจากการนั่งทำงานนานๆเท่านั้น จริงๆแล้ว Office Syndrome เป็นกลุ่มอาการที่ทำให้เกิดอาการผิดปรกติกับร่างกายหลายระบบด้วยกันค่ะ

  • อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (Myofascial Pain Syndrome)
    เป็นอาการปวดกล้ามเนื้อแบบไม่สามารถชี้เฉพาะจุดได้ แต่จะปวดแบบรวมๆ เป็นบริเวณกว้างๆ เช่นปวดทั้งคอ บ่า ไหล่ และสะบัก หรือมีอาการปวดทั้งหลังแบบเรื้อรัง ปวดหัวไมเกรน ปวดหัวเรื้อรัง ซึ่งอาการปวดเหล่านี้มักเกิดจากการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องกันนานหลายชั่วโมง หรืออาจจะเป็นท่ายืนทำงานนานๆ กล้ามเนื้อมัดเดิมๆจึงเกร็งตัวอยู่ตลอดเวลา จนทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อมัดนั้นรวมไปถึงกล้ามเนื้ออื่นใกล้เคียงด้วย
  • อาการชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง จากการถูกกดทับระบบประสาทและเส้นเลือด
    หลายคนมีอาการชาที่บริเวณแขน มือ ขา ไปจนถึงเท้า ซึ่งเกิดจากการไม่ยอมเปลี่ยนอิริยาบทนานเกินไป จนเส้นประสาท และเส้นเลือดถูกบีบรัด หรือกดทับ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการชา ปวด หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้
  • อาการวูบ เหงื่อออกมากผิดปรกติ มึนงง ขนลุก ฯลฯ
    เป็นอาการผิดปรกติที่ร่างกายตอบสนองเมื่อกล้ามเนื้อเกร็งตัวมากจนเกินปรกติ ที่มักจะมาพร้อมๆความเครียด มีผลทำให้ไปกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติชนิดซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) ซึ่งจะทำให้เกิดการหลั่งสารอะดรีนาลินเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ หลอดเลือด หัวใจ ปอด ทำให้เกิดอาการต่างๆเช่น เย็น วูบวาบ เหงื่อออกเยอะ ขนลุก หรืออาจจะเป็นเหน็บชาตามบริเวณที่ปวด ในบางรายที่ปวดเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณคอและศีรษะอาจมีอาการมึนงง หูอื้อ ตาพร่ามัวเกิดขึ้นได้

ทำไมเราถึงปวดกล้ามเนื้อ ?

 class=

____การยืน หรือนั่งทำงานแบบไม่เปลี่ยนท่าหรือปรับเปลี่ยนอิริยาบถเลยเป็นเวลานานๆ แล้วทำซ้ำเหมือนเดิมแบบเดิมทุกๆวันต่อเนื่อง อย่างเช่นงานที่ต้องจดจ่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ยืนขายของ หรือจัดของทั้งวันนั้น มักทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังเกิดขึ้น สาเหตุโดยตรงก็มาจากการเกร็งตัวนานๆของกล้ามเนื้อนั่นเอง

____การหดตัวเกร็งค้างของกล้ามเนื้อมัดเดิมนานๆ จะทำให้ภายในเส้นใยกล้ามเนื้อ เกิดการบาดเจ็บจนสร้างสารอักเสบต่างๆ ออกมา อีกทั้งในเวลาที่กล้ามเนื้อเกร็งตัว จะมีการบีบรัดเส้นเลือดทำให้การไหลเวียนลำเลียงของเสียในกล้ามเนื้อถูกขัดขวาง การลำเลียงออกซิเจนก็ไม่ดี ทำให้เกิดการคั่งค้างของกรดและสารอักเสบรอบๆกล้ามเนื้อนั้น ซึ่งสารเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นตัวรับความรู้สึกเจ็บปวด (Nociceptor) และส่งสัญญาณตามระบบประสาทรับความรู้สึกไปที่สมอง ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดกล้ามเนื้อนั่นเองค่ะ

ยิ่งเครียด ยิ่งปวด

____จากการศึกษายังพบว่า เวลาคุณเกิดความเครียดขึ้นร่างกาย จะเกิดกระบวนการไปกระตุ้นตัวรับความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้เรารู้สึกปวดกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นได้ด้วย และจะกลายเป็นวงจรความเจ็บปวดที่ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเมื่อเครียด อาการปวดก็จะเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะสั่งการให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้เจ็บขึ้น ปวดขึ้น และวนกลับมาทำให้เครียดมากขึ้น แล้วก็วนกลับไปซ้ำๆที่กล้ามเนื้อเกร็งตัวมากขึ้นอีกไม่จบสิ้น แต่เราสามารถตัดวงจรนี้ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง

แนวทางการรักษา ‘Office Syndrome’

____กลุ่มอาการ Office Syndrome ถือเป็นโรคที่สร้างปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก และมีผลไปถึงประสิทธิภาพในการทำงานในแต่ละวันด้วย การรักษา Office Syndrome เพื่อหยุดอาการอย่างยั่งยืนจึงมีความจำเป็นเพื่อให้เราสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปรกติสุขได้ โดยลำดับการวางแผนการรักษามีดังนี้ค่ะ

 class=
  1. เริ่มจากการสังเกตว่าอาการ Office Syndrome ที่เป็นอยู่มีอาการอย่างไร และมาจากสาเหตุใด เช่น มีอาการปวดกล้ามเนื้อ เจ็บเส้นเอ็น จากการเกร็งกล้ามเนื้อท่าเดิมนานๆ มีอาการซ่า ชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากกล้ามเนื้อที่บีบรัดจนกดทับเส้นประสาท หรือหลอดเลือด
  1. เมื่อทราบสาเหตุแล้ว หากยังมีอาการไม่รุนแรงมาก ควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองก่อนค่ะ
  • หยุดพักจากการทำงานเป็นระยะ แบ่งเวลาการทำงานเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
    อย่างช้าที่สุดทุกๆ 2 ชั่วโมง ควรลุกขึ้น ยืน หรือเดิน ขยับ ปรับเปลี่ยนท่าทาง และเคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
  • ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน
    เลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ทำงานที่ความเหมาะสมกับสรีระของเรา ควรปรับระดับของการนั่งที่ถูกต้อง วางแขนบนโต๊ะในระดับที่ถูกต้องหัวไหล่ไม่ยกขณะทำงาน ปรับท่านั่งให้เหมาะสม เช่น นั่งหลังตรง และปรับระดับจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ก้มหรือเงยจนเกินไป
  • ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
    • ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardiorespiratory Training)
      เพื่อช่วยให้การไหลเวียนของเลือดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถทำได้ทั้ง วิ่ง ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค ปั่นจักรยาน นอกจากนั้นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการออกกำลังการด้วยกิจกรรมเหล่านี้ก็จะมีความแข็งแรงขึ้น ยืดหยุ่นขึ้นอีกด้วย
    • ออกกำลังกายแบบเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (Weight Training หรือ Strength Training)
      การนั่งหรือยืนด้วยท่าท่างที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน มีผลทำให้กล้ามเนื้อทรงตัว หรือกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวขาดความสมดุล เช่น นั่งหลังค่อม ไหล่งุ้มเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อลำตัวส่วนหน้า และกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกอาจจะยึดเกร็งจากการหดตัวเป็นเวลานาน แต่กล้ามหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อสะโพกอ่อนแอ สามารถแก้ไขได้ด้วยการยืดกล้ามเนื้อส่วนที่หดรั้งเกร็งตัว และออกกำลังเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง และส่วนแกนกลางลำตัว ทั้งหน้าท้องและสะโพก เช่น การออกกำลังกายแบบพิลาทิส หรือการออกกำลังกายแบบ Weight Training เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง หน้าท้อง และสะโพก เป็นต้น
    • ยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ (Stretching)
      ก่อนออกกำลังกาย หรือเริ่มต้นทำงานทุกครั้งควรยืดกล้ามเนื้อก่อนเสมอเพื่อเป็นการ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และป้องกันการบาดเจ็บของงกล้ามเนื้อได้ดี รวมถึงการฝึกออกกำลังกายแบบยืดเหยียด (Flexibility Exercises) เช่น โยคะ ไทเก็ก ที่มีประโยชน์ในการช่วยป้องการบาดเจ็บ ลดอาการปวดหลัง เพื่อความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทรงตัว และลดอาการตึงและเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้น
  1. หากมีอาการปวดรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไข หรือรักษาได้ด้วยการปรับพฤติกรรมตนเองให้รีบปรึกษาแพทย์ ในรายที่มีอาการมาก พยายามเปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วอาการปวดกล้ามเนื้อยังไม่ดีขึ้น บางรายปวดทรมานจนนอนไม่ได้ ทำงานไม่ได้ หรือมีอาการอื่นๆที่ไม่ปรกติ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการ Office Syndrome ก็ต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และนักกายภาพบำบัดต่อไป

เทรนนิ่งกล้ามเนื้อลำตัวให้แข็งแรง
ด้วยโปรแกรม Body Firm by Emsculpt ที่ Romrawin Clinic

____อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น อาการ Office Syndrome จะดีขึ้นหากคุณมีกล้ามเนื้อลำตัวที่แข็งแรง อย่างไรก็ดีหากคุณไม่มีเวลามากพอในการออกกำลังกายเทรนนิ่งกล้ามเนื้อ ก็สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Romrawin Clinic เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องของการใช้นวัตกรรมช่วยในการเทรนนิ่งกล้ามเนื้อลำตัวให้แข็งแรงขึ้นแม้จะมีเวลาน้อยได้ค่ะ

____โปรแกรม Body Firm by Emsculpt เป็นโปรแกรมที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อได้ แม้คุณมีเวลาอันน้อยนิดก็หวังผลในเรื่องกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นได้ประหนึ่งออกกำลังกายหนักๆเลยทีเดียว

____Body Firm by Emsculpt เป็นโปรแกรมที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นพลังอิเล็กโทรแมกเนติก หรือ HIFEM (High-Intensity Focused Electromagnetic Technology) ในการเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเพื่อกระชับการลดสัดส่วน โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้จะเข้าไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งตัวถี่ๆ มากถึง 20,000 ครั้ง ภายใน 30 นาที

____ข้อดีของเทคโนโลยี Emsculpt คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้จะเหนี่ยวนำให้เกิดการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อเป็นจังหวะต่อเนื่องโดยจะส่งพลังงานไปกระตุ้นที่กล้ามเนื้อโดยตรงซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อสามารถหดเกร็งตัวอย่างสูงสุดได้เต็มประสิทธิภาพแบบที่การออกกำลังกายปรกติไม่สามารถทำได้ โดยการใช้เทคโนโลยี Emsculpt เทรนนิ่งกล้ามเนื้อเพื่อช่วยฟื้นฟูอาการ Office Syndrome ให้ดีขึ้นนี้ จะเน้นไปที่การเทรนนิ่งกล้ามเนื้อกลุ่ม Core Muscle หรือกลุ่มมัดกล้ามเนื้อที่อยู่รอบลำตัว ทั้งส่วนหน้าท้อง หลัง ที่มีหน้าที่ช่วยประคองร่างกาย ป้องกันกระดูกสันหลังและอวัยวะช่องท้อง รวมถึงการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพกด้วย ซึ่งถ้ากล้ามเนื้อกลุ่มนี้มีความแข็งแรงดี จะช่วยให้ทำให้ไม่ค่อยปวดเมื่อย มีความทนทานขึ้นเมื่อต้องนั่งนานๆ

____นอกจากโปรแกรม Body Firm by Emsculpt จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นแล้ว ผลพลอยได้จากโปรแกรมนี้คือการที่คุณจะมีสัดส่วนที่กระชับขึ้น เนื่องจาก Emsculpt จะทำให้เกิดกระบวนการเหนี่ยวนำการเร่งปฏิกิริยาการเผาผลาญของเซลล์ไขมัน และทำให้เซลล์ไขมันเกิดการสลายไปตามธรรมชาติ ไขมันสะสมจึงลดลงไปด้วย

____แม้จะไม่มีเวลามากพอในการออกกำลังกาย แต่ก็มีนวัตกรรมที่สามารถช่วยให้คุณได้ถึงเป้าหมายที่เร็วขึ้นได้ นอนเฉยๆแค่ 30 นาที กล้ามเนื้อก็เหมือนได้ออกกำลังกายหนักแบบจัดเต็มได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลามากนัก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาอาการ Office Syndrome คือการปรับที่พฤติกรรมของตัวของคุณเองไปพร้อมๆกัน แบ่งเวลาชีวิตให้เหมาะสมขึ้น เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์บ้าง หาเวลาพักผ่อนลดความเครียด รับรองว่า Office Syndrome หายขาดไปอย่างยั่งยืนแน่นอนค่ะ

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
สามารถปรึกษาเราได้ที่ รมย์รวินท์ คลินิก

???? โทร.080-1539000 และ  080-1549000
???? Line@ : @Romrawinclinic

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้