
เหนียงหาย รูปหน้าเรียว! 5 วิธียกกระชับเหนียงแบบไม่ศัลยกรรม
เหนียงหาย รูปหน้าเรียว! 5 วิธียกกระชับเหนียงแบบไม่ศัลยกรรม
เหนียงหรือไขมันสะสมใต้คาง คือหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูใหญ่กว่าความเป็นจริง ขาดความคมชัด และดูแก่ก่อนวัย หลายคนอาจกำลังพยายามซ่อนเหนียงด้วยการหันหน้าหลบกล้อง หรือพึ่งพาแอปแต่งรูปทุกครั้งก่อนโพสต์ภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหานี้สามารถจัดการได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งมีดหมอหรือการศัลยกรรมแต่อย่างใด
ปัจจุบันมีทางเลือกมากมายในการยกกระชับเหนียงที่ไม่อันตราย ไม่เจ็บตัว และให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยียกกระชับ หรือแม้แต่วิธีธรรมชาติที่ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ซึ่งล้วนเป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณเรียกคืนความมั่นใจ พร้อมโชว์รูปหน้าเรียวได้อย่างไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์อีกต่อไป
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 7 วิธียกกระชับเหนียงโดยไม่ต้องศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมและพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง พร้อมคำแนะนำในการเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง

เหนียงคืออะไร? ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ง่าย
เหนียงคืออะไร? ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ง่าย
เหนียงคือก้อนเนื้อหรือไขมันที่อยู่ใต้คาง ทำให้ดูเหมือนมีคางสองชั้นหรือที่เรียกว่า Double Chin พอมีเหนียงแล้วจะทำให้หน้าดูกลม กรอบหน้าไม่ชัด และดูแก่กว่าวัย บางคนแม้จะผอมก็ยังมีเหนียงได้ เพราะมันไม่ได้เกิดจากความอ้วนเพียงอย่างเดียว
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเหนียง
- ไขสะสมเฉพาะจุด
การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และขาดความเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ ไขมันก็จะไปสะสมตามจุดต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงใต้คางด้วย
- อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพ การผลิตคอลลาเจนลดลง ผิวจึงสูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มหย่อนคล้อย เหนียงจึงกลายเป็นปัญหาที่เห็นชัดขึ้น
- พันธุกรรม
โครงสร้างทางพันธุกรรมก็มีส่วนอย่างมาก บางคนมีแนวกรามหรือกระดูกคางที่ทำให้ไขมันสะสมหรือห้อยได้ง่าย แม้จะมีรูปร่างผอมบางก็ตาม
- พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การนั่งก้มหน้ามือถือเป็นเวลานาน นอนน้อย ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย กินก่อนนอน และไม่ดูแลสุขภาพผิว ล้วนเป็นตัวเร่งให้เหนียงก่อตัวได้เร็วขึ้น
- โครงสร้างใบหน้าแบบคางสั้น
คนที่มีคางสั้นหรือกรามไม่ชัด จะเห็นเหนียงได้ง่าย เพราะช่วงคางกับคอมีระยะน้อย ทำให้ดูเหมือนเหนียงเยอะกว่าคนอื่น

เจาะลึก 5 เทคโนโลยียกกระชับเหนียงแบบไม่ศัลยกรรม
เจาะลึก 5 เทคโนโลยียกกระชับเหนียงแบบไม่ศัลยกรรม
-
Ultherapy Prime
หลักการทำงาน
- ใช้พลังงานจากคลื่นอัลตราซาวนด์แบบเฉพาะเจาะจง (Micro-Focused Ultrasound) ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์มักใช้ในการดึงหน้า จึงให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงการศัลยกรรมโดยไม่ต้องผ่าตัด
จุดเด่น
- ระบบ DeepSEE® Visualization แบบ Real-time แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างของชั้นผิวได้แบบเรียลไทม์ขณะทำการรักษา ทำให้วางแผนการยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ
- หน้าจอใหม่ใหญ่ขึ้น 35% ความละเอียดสูงขึ้น ช่วยให้แพทย์เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มความแม่นยำในการรักษา
- หัวส่งพลังงานหลายระดับความลึก ครอบคลุมทั้งความลึก 1.5 mm, 3.0 mm และ 4.5 mm ซึ่งสามารถลงลึกถึงชั้น SMAS
- ใช้เวลารักษาน้อยลง แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่าเดิม
ผลลัพธ์
- ช่วยยกกระชับเหนียง กรอบหน้า และคางได้อย่างแม่นยำ เห็นผลใน 1–2 เดือน และอยู่ได้นาน 1-2 ปี เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีเหนียง ผิวหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง
EMFACE Submentum
หลักการทำงาน
- ใช้พลังงาน HIFES™ (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) ผสานกับคลื่นวิทยุ Synchronized RF กระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้กระชับขึ้น พร้อมช่วยลดไขมันและกระตุ้นคอลลาเจนในเวลาเดียวกัน
จุดเด่น
- ลงลึกได้ครบทุกระดับของปัญหาเหนียง ทั้งผิวหนัง ไขมัน และกล้ามเนื้อ
- เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อชั้นลึกกว่าชั้น SMAS
- ช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณใต้คางได้มากถึง 30%
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น 27% และ อีลาสตินสูงขึ้นถึง 129%
- เพิ่มปริมาณและความหนาแน่นของกล้ามเนื้อใต้คางได้ถึง 19.2%
ผลลัพธ์
- ช่วยให้ผิวใต้คางกระชับมากขึ้น กรอบหน้าคมชัด เหมาะกับผู้ที่มีเหนียงจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือไขมันสะสม ไม่อยากฉีด ไม่อยากผ่าตัด
-
Thermage FLX
หลักการทำงาน
- เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อ ยกกระชับผิวหน้า และ ลดไขมันสะสมใต้ผิว โดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency – RF) ซึ่งสามารถส่งพลังงานความร้อนลึกลงไปถึง ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และ ชั้นไขมันใต้ผิว (Subcutaneous Fat)
จุดเด่น
- มีระบบ AccuREP™ Technology ระบบวัดและปรับค่าพลังงานแบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ ช่วยให้แต่ละจุดบนผิวได้รับพลังงานที่เหมาะสม เพิ่มความแม่นยำตลอดการรักษา
- หัวทิปรุ่นใหม่ Total Tip 4.0 สามารถปล่อยพลังงานได้ลึกและครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น ช่วยให้ใช้เวลาทำหัตถการน้อยลงถึง 25%
- ช่วยปกป้องผิวจากความร้อนส่วนเกินด้วยระบบทำความเย็น (Cooling System) ลดโอกาสเกิดอาการผิวไหม้ พร้อมให้ความรู้สึกสบายขณะทำ
- เพิ่มความผ่อนคลายระหว่างทำ ด้วยระบบสั่น Vibration Mode ที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บ ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายมากขึ้น
ผลลัพธ์
- ช่วยให้ผิวใต้คางกระชับและแน่นขึ้น เห็นผลภายใน 1-2 เดือน และอยู่ได้นาน 1-2 ปี เหมาะกับผู้ที่มีเหนียงเยอะ ผิวหย่อนคล้อยชัด ต้องการยกกระชับเหนียง
Oligio
หลักการทำงาน
- เทคโนโลยี Monopolar RF ใช้พลังงานส่งลึกไปถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใช้เทคโนโลยี คลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ที่มีความถี่ 6.78 MHz พลังงานจากคลื่นความถี่นี้สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และ ชั้นไขมันใต้ผิว (Subcutaneous Fat) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมช่วยให้ผิวกระชับและไขมันค่อยๆ ลดลง
จุดเด่น
- หัวทิปขนาดใหญ่ 4 ตร.ซม. ช่วยครอบคลุมพื้นที่การรักษาได้มากขึ้นต่อช็อต ทำให้ใช้เวลาในการทำต่อครั้งเพียง 20–30 นาที
- มีระบบ Auto Mode ควบคุมการปล่อยพลังงานให้คงที่ในแต่ละจุด ลดความเสี่ยงจากความร้อนสะสม และช่วยให้ผลลัพธ์แม่นยำมากขึ้น
- ผสานการปล่อยความเย็นระบบ Cooling พร้อม Vibration แรงสั่นเบาๆ ระหว่างทำ เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ และปกป้องผิวจากการระคายเคืองหรือไหม้
- Real-Time Temperature Monitoring ระบบตรวจวัดอุณหภูมิผิวแบบเรียลไทม์ ตรวจวัดอุณหภูมิผิวแบบเรียลไทม์ หากอุณหภูมิสูงเกิน 43°C เครื่องจะหยุดทำงานอัตโนมัติ ช่วยป้องกันผิวไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีระบบ Pressure Sensing ตรวจสอบแรงกดระหว่างหัวเครื่องกับผิวหนังอย่างแม่นยำ ช่วยให้พลังงานถูกส่งลงผิวแบบไม่อันตราย ลดโอกาสที่ผิวจะได้รับความเสียหายจากการกดทับมากเกินไป
ผลลัพธ์
- ช่วยยกกระชับเหนียง ลดไขมันส่วนเกินใต้ผิว ลดความหย่อนคล้อยและไขมันสะสม อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ พร้อมฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียงหย่อนคล้อย ไขมันสะสมบริเวณใต้คาง และต้องการยกกระชับผิวให้เรียบเนียนกระชับได้รูป
Fix Lift
หลักการทำงาน
- เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ผสาน 2 พลังหลักเข้าด้วยกัน ได้แก่ Microneedling และ คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) เพื่อฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกทั้งระดับผิวหนังแท้และชั้นไขมัน
จุดเด่น
- สามารถปรับความลึกของเข็มได้หลายระดับ สำหรับใบหน้า 0.5 มม. ถึง 4 มม. และลำตัว 7 มม.
- ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง พร้อมกระชับชั้นไขมันใต้ผิว
- ช่วยยกกระชับ ลดริ้วรอย รอยย่น และแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างแม่นยำ
ผลลัพธ์
- ช่วยยกกระชับเหนียง ให้ดูแน่น กระชับ และเรียวขึ้น ลดไขมันสะสมใต้ผิวหนังบริเวณแก้มและเหนียง ทำให้โครงหน้าดูชัดเจนและสมส่วน

ใช้เครื่องยกกระชับเหนียงเหมาะกับช่วงวัยไหนบ้าง?
ใช้เครื่องยกกระชับเหนียงเหมาะกับช่วงวัยไหนบ้าง?
การยกกระชับเหนียงสามารถทำได้ในทุกช่วงวัย ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน โดยแต่ละช่วงวัยมีความเหมาะสมและเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้
- วัย 20-29 ปี
กลุ่มคนวัยนี้มักเริ่มมีปัญหาเหนียงเล็กน้อยจากไขมันสะสม หรือเกิดจากโครงหน้าที่มีคางสั้น ทำให้กรอบหน้าดูไม่ชัด ถึงแม้บางคนจะมีรูปร่างผอมแต่ก็ยังมีเหนียงให้เห็นได้ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงที่กระตุ้นให้เหนียงเกิดเร็วขึ้น เช่น การก้มหน้าเล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์นาน ๆ รวมถึงนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม การเริ่มยกกระชับเหนียงด้วยโปรแกรม Ultherapy Prime, Oligio และ EMFACE Submentum ตั้งแต่ช่วงวัยนี้ จึงเป็นการช่วยชะลอการหย่อนคล้อยในอนาคต และเป็นการดูแลผิวแบบเชิงป้องกัน
- วัย 30-39 ปี
ในช่วงอายุนี้ ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้เริ่มหย่อนและเหนียงเริ่มเห็นชัดขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันสะสมและผิวไม่กระชับ การใช้เครื่องยกกระชับเหนียง เช่น Ultherapy, Oligio หรือ EMFACE Submentum จึงเหมาะมากในช่วงวัยนี้
- วัย 40-49 ปี
เมื่อเช้าสู่ช่วงวัย 40+ หลายคนจะเริ่มสังเกตได้ว่าผิวหย่อนคล้อยชัดเจนขึ้น รวมถึงมีไขมันสะสมและกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย การใช้เครื่องยกกระชับเหนียง เช่น Thermage FLX หรือ Ultherapy Prime จึงเหมาะสำหรับวัยนี้ เพราะช่วยดึงผิวให้ตึงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยลึก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้าเดิม

ใช้เครื่องยกกระชับเหนียงช่วยอะไรได้บ้าง?
ใช้เครื่องยกกระชับเหนียงช่วยอะไรได้บ้าง?
- ช่วยลดไขมันสะสมใต้คาง ทำให้คางสองชั้นหรือเหนียงดูเล็กลง
- ทำให้กรอบหน้า (jawline) คมชัดมากขึ้น ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น
- แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณใต้คางและลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัด
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิวตึงกระชับจากภายใน
- ช่วยให้ใบหน้าดู อ่อนเยาว์และสดใสขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์
- ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้นโดยไม่เปลี่ยนโครงหน้าเดิม
- ลดความรู้สึกหนักหรือหน่วงบริเวณคางและลำคอ
- เหมาะสำหรับคนที่น้ำหนักตัวปกติ แต่ยังมีเหนียงให้เห็นชัด
- ยกกระชับเหนียงทำให้หน้าเล็กลงในภาพรวม เมื่อมองจากด้านข้างและด้านหน้า
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการถ่ายรูป ไม่ต้องพึ่งแอปแต่งรูปมาก
- ลดปัญหาคางสั้นจนคอหายที่ทำให้หน้าดูกลม
- ช่วยป้องกันไม่ให้เหนียงลุกลามในอนาคต
- เหมาะทั้งสำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะจุด และการดูแลใบหน้าโดยรวม
ข้อดีของการใช้เครื่องยกกระชับเหนียง
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่เสี่ยงติดเชื้อ
- ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จแล้วกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้
- ผลลัพธ์ค่อยๆ ชัดขึ้นใน 1–3 เดือน
- ผลอยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี
- ยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนได้พร้อมกัน
- ผิวเรียบเนียน แน่นขึ้น ดูอ่อนวัยลง
- ช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น ใต้คาง แก้มล่าง
- เหมาะกับทุกสภาพผิว และผิวในจุดที่บอบบาง
- มีหลายเทคโนโลยีให้เลือกตามงบประมาณและสภาพผิว
- ไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยน หรือแข็งตึงจนเกินไป
- ทำได้บ่อย ไม่ต้องเว้นช่วงนาน
- เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการศัลยกรรม
- ทำหัตถการใช้เวลาสั้น ใช้ระยะเวลาไม่นาน
- ช่วยเสริมความมั่นใจ ให้ใบหน้าดูสดใส มีมิติมากขึ้น
- สามารถใช้ร่วมกับหัตถการอื่นได้

ใครเหมาะกับการใช้เครื่องยกกระชับเหนียง
ใครเหมาะกับการใช้เครื่องยกกระชับเหนียง
- ผู้ที่มีเหนียงเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ผู้ที่มีกรอบหน้าเริ่มหย่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด
- ผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คาง แต่ไม่อยากดูดไขมัน
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยจากอายุ หรือสูญเสียคอลลาเจน
- ผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วเหนียงยังไม่หาย
- ผู้ที่มีคางสั้นหรือโครงหน้าไม่ชัด ทำให้เหนียงเด่นชัด
- ผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือไม่ต้องการพักฟื้น
- ผู้ที่ไม่สะดวกหยุดงานหลายวัน ไม่ต้องการมีแผลหรือรอยช้ำ
- ผู้ที่มีเวลาไม่มาก ต้องการทำหัตถการในเวลาอันสั้น
- ผู้ที่อยากดูแลตัวเองแบบต่อเนื่อง
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับเหนียง ให้ใบหน้าดูคมชัดมากขึ้น
- ผู้ที่ไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อน อยากเริ่มต้นดูแลผิวแบบไม่อันตราย
- ผู้ชายหรือผู้หญิงที่ต้องการยกกระชับกรอบหน้าโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้าเดิม
- ผู้ที่มีพฤติกรรมก้มหน้าใช้มือถือและคอมพิวเตอร์บ่อยๆ จนเกิดเหนียง
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป
หมายเหตุ
ผลลัพธ์ของยกกระชับเหนียงในแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้า ปริมาณไขมัน และสภาพผิวโดยรวม
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกเทคโนโลยียกกระชับเหนียงที่เหมาะสมกับตัวคุณ
ใครไม่เหมาะกับการใช้เครื่องยกกระชับเหนียง
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีปริมาณไขมันใต้คางมาก จนเกินกว่าที่เทคโนโลยียกกระชับจะทำได้
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยรุนแรงหรือหนังหย่อนมาก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วแบบชัดเจนมาก
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังในบริเวณที่ต้องทำ เช่น ผื่น แผลติดเชื้อ เริม หรือสิวอักเสบรุนแรง
- ผู้ที่มีแผลผ่าตัดหรือแผลเปิดบริเวณคอหรือใบหน้า
- ผู้ที่มีประวัติแพ้โลหะหรือมีอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
- ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวานรุนแรง, โรคหัวใจที่ไม่เสถียร
- ผู้ที่เคยทำหัตถการอื่นหรือศัลยกรรมในบริเวณนั้นมาก่อนในระยะเวลาอันใกล้
- ผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินจริง เช่น ต้องการหน้าเรียวภายในครั้งเดียว
- ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิตหรือไม่สามารถสื่อสารร่วมกับแพทย์ได้
- ผู้ที่มีภาวะผิวไวต่อความร้อน หรือมีประวัติแผลเป็นนูน (Keloid)
หมายเหตุ
แม้ว่าการการใช้เครื่องยกกระชับเหนียง จะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับวิธีนี้ 100% แนะนำให้เข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าวิธีที่เลือกสามารถให้ผลลัพธ์ยกกระชับเหนียงที่ตรงตามความต้องการได้จริง
เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังใช้เครื่องยกกระชับเหนียง
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7–8 ชั่วโมงต่อวัน
- ควรทาครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- ควรทาครีมกันแดด SPF 50 PA++++ เป็นประจำ แม้ไม่ได้ออกแดดโดยตรง
- ควรรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ วิตามินซี
- งดใช้ห้องอบไอน้ำ ซาวน่า อ่างน้ำร้อน หรืออาบน้ำร้อนจัดใน 3 วันแรก
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ในช่วง 3–5 วันหลังทำ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol ในช่วง 3–5 วันแรก
- งดทำหัตถการอื่นเพิ่มเติม เช่น เลเซอร์ ฉีดโบ ฉีดฟิลเลอร์ ควรเว้นระยะ 2–4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรงๆ หรือกดจุดบริเวณที่ทำหัตถการ อย่างน้อย 5–7 วัน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และไม่ควรออกกลางแดดนานๆ โดยไม่มีการป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เช่น เวทเทรนนิ่ง หรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก
รวมทุกคำถามที่ควรรู้ของการใช้เครื่องยกกระชับเหนียง
- ยกกระชับเหนียงเจ็บไหม?
โดยทั่วไป การใช้เครื่องยกกระชับเหนียง จะรู้สึกเพียงเล็กน้อยระหว่างทำ เช่น ร้อนๆ ตึงผิว หรืออุ่นเบาๆ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้และความไวของผิวแต่ละคน ส่วนใหญ่ไม่ถึงกับเจ็บจนทนไม่ได้ และบางเทคโนโลยีก็แทบไม่รู้สึกเลย หากกังวลเรื่องความรู้สึกระหว่างทำ สามารถขอยาชาช่วยลดความไม่สบายได้
- ยกกระชับเหนียงต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
การใช้เครื่องยกกระชับเหนียง ส่วนใหญ่สามารถเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่หลังทำครั้งแรก โดยผิวจะค่อยๆ กระชับขึ้นในช่วง 2–4 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ภายใน 1–3 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวแต่ละคน
ในกรณีที่ต้องการรักษาผลลัพธ์ให้ต่อเนื่องยาวนาน หรือเสริมความกระชับในจุดอื่น ๆ แพทย์อาจแนะนำให้ทำซ้ำปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์คงที่และเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวตามวัย
- ผลลัพธ์ของยกกระชับเหนียงอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลของการยกกระชับเหนียงโดยไม่ศัลยกรรม สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ระดับความหย่อนคล้อยของผิว การดูแลหลังทำ รวมถึงไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมส่วนตัว ทั้งนี้หากดูแลผิวดีอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นอย่างชัดเจน
- ยกกระชับเหนียงแล้วใบหน้าจะเปลี่ยนไปไหม?
การใช้เครื่องยกกระชับเหนียง ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้น กรอบหน้าคมชัด ใบหน้าดูเรียวยาวและสดใสขึ้น แต่จะไม่เปลี่ยนโครงหน้าเดิมหรือทำให้หน้าดูแข็งตึงเหมือนการดึงหน้าด้วยการผ่าตัด
- ยกกระชับเหนียงผู้ชายทำได้ไหม?
ปัจจุบันผู้ชายจำนวนมากหันมาใส่ใจรูปลักษณ์และสุขภาพผิวมากขึ้น การยกกระชับเหนียงช่วยทำให้ใบหน้าชัดขึ้น กรอบหน้าคมขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชายที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น
เทคโนโลยีที่ใช้สามารถปรับระดับพลังงานและความลึกให้เหมาะกับผิวของผู้ชาย ซึ่งมักหนาและแข็งแรงกว่าผู้หญิง จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นกัน
- ยกกระชับเหนียงสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
การทำยกกระชับเหนียงร่วมกับหัตถการอื่น สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น เช่น การฉีดลดไขมันเหนียงร่วมกับการยกกระชับผิว จะช่วยให้ทั้งไขมันลดและผิวตึงขึ้นในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ควรเว้นระยะเวลาในการทำแต่ละหัตถการให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงจากการทำซ้ำในช่วงเวลาสั้นเกินไป
- หลังทำยกกระชับเหนียงจะมีอาการบวม แดง หรือช้ำไหม?
โดยทั่วไป การใช้เครื่องยกกระชับเหนียง จะไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือผิวช้ำ อาการข้างเคียงที่พบได้อาจมีเพียงเล็กน้อย เช่น ผิวแดง ตึง หรืออุ่นบริเวณที่ทำ ซึ่งมักหายไปภายใน 1-3 ชั่วโมง ไม่เกิน 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
- ยกกระชับเหนียงทำซ้ำได้บ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปสามารถทำซ้ำได้ทุก 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้และสภาพผิวของแต่ละคน เช่น เทคโนโลยี Ultrasound มักจะทำเพียงแค่ปีละครั้งก็เพียงพอ ส่วนเทคโนโลยี RF แนะนำให้ทุก 6-12 เดือน ทั้งนี้ควรให้แพทย์ประเมินเป็นรายบุคคลเพื่อวางแผนที่เหมาะสม
- การยกกระชับเหนียงช่วยลดเหนียงได้ถาวรไหม?
การยกกระชับเหนียงสามารถช่วยลดไขมันใต้คางและยกผิวให้กระชับขึ้นได้จริง แต่ไม่ถือว่าเป็นถาวรในระยะยาว เพราะร่างกายยังคงเปลี่ยนแปลงตามอายุและพฤติกรรม หากดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง และทำซ้ำตามรอบที่เหมาะสม ก็จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานหลายปีโดยไม่ต้องศัลยกรรม
- สามารถทำยกกระชับเหนียงพร้อมกับยกกระชับใบหน้าได้ไหม?
สามารถทำยกกระชับเหนียงพร้อมกับยกกระชับใบหน้าร่วมกันได้ ซึ่งในหลายกรณีแพทย์มักแนะนำให้ทำทั้งเหนียงและใบหน้าพร้อมกัน โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ใช้หัวทิปหรือพลังงานต่างระดับ เช่น Ultherapy Prime หรือ EMFACE ซึ่งสามารถครอบคลุมบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง และหน้าผากได้ในคราวเดียว เพื่อให้ใบหน้าเรียวกระชับได้อย่างสมดุล
- การยกกระชับเหนียงเหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักเกินไหม?
เหมาะในกรณีที่ต้องการลดเหนียงที่เกิดจากไขมันเฉพาะจุด แม้จะมีน้ำหนักเกิน การยกกระชับเหนียงสามารถช่วยให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากมีไขมันสะสมมากเกินไป ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเท่าผู้ที่มีชั้นไขมันบางหรือผิวแน่น
ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ทำร่วมกับการฉีดลดไขมันใต้คางก่อน หรือควบคุมอาหารควบคู่ เพื่อให้ผลของการยกกระชับเหนียงเห็นชัดและอยู่ได้นานขึ้น
การยกกระชับเหนียงแบบไม่ศัลยกรรมหรือการใช้เครื่องยกกระชับเหนียง ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และยังสามารถเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับปัญหาของแต่ละคนได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับ ลดไขมันใต้คาง หรือฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและอ่อนวัยขึ้น
แม้จะไม่ใช่วิธียกกระชับเหนียงที่ให้ผลถาวร แต่หากดูแลต่อเนื่องและทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้อง ก็สามารถช่วยยืดอายุผิว กระชับกรอบหน้า และลดการหย่อนคล้อยในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเริ่มมีเหนียงเล็กน้อย หย่อนคล้อยจากอายุ หรืออยากปรับรูปหน้าให้คมชัด การใช้เครื่องยกกระชับเหนียง ก็คือหนึ่งในวิธีที่ทันสมัยและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างเหมาะสม