เครื่องยกกระชับใบหน้าแบบไหน เหมาะกับคนรูปหน้าแบบไหน

เครื่องยกกระชับใบหน้าแบบไหน เหมาะกับคนหน้ากลม หน้าตอบ หน้าเหลี่ยม

ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย รูปหน้าถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว ความหย่อนของกล้ามเนื้อใบหน้า หรือแม้แต่ไขมันสะสมเฉพาะจุด ปัญหาเหล่านี้ทำให้รูปหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนไป จนหลายคนรู้สึกว่าใบหน้าดูไม่คมชัด ไม่ได้สัดส่วนเหมือนเคย นี่จึงเป็นที่มาของความสนใจในหัตถการเครื่องยกกระชับใบหน้า ซึ่งช่วยฟื้นคืนความกระชับให้ใบหน้ากลับมามีมิติอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีเครื่องยกกระชับใบหน้าที่ได้ผลจริง ไม่ใช่แค่การเลือกเทคโนโลยีใหม่หรือโปรแกรมที่ได้รับความนิยมเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงรูปหน้าเดิมของแต่ละคนด้วย เพราะโครงหน้าที่ต่างกัน ย่อมตอบสนองต่อเทคนิคการยกกระชับใบหน้าไม่เหมือนกัน เช่น คนหน้ากลมอาจต้องเน้นลดปริมาตรใบหน้า คนหน้าตอบต้องเติมเต็มให้ผิวอิ่มฟู ส่วนคนหน้าเหลี่ยมก็อาจต้องเน้นปรับกรอบหน้าให้ดูละมุนมากขึ้น

 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก หน้ากลม หน้าตอบ และหน้าเหลี่ยม มีลักษณะเด่นอย่างไร และความยกกระชับใบหน้าด้วยวิธีไหนจึงจะเหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น พร้อมคำแนะนำแบบครบทุกมุมมองจากทั้งเทคโนโลยี หัตถการทางการแพทย์ และการดูแลหลังทำ เพื่อให้คุณสามารถเลือกแนวทางที่ตรงกับรูปหน้าและความต้องการของตัวเองได้อย่างมั่นใจ

 

 

ทำความเข้าใจโครงหน้าก่อนทำเครื่องยกกระชับใบหน้า

ก่อนจะเลือกวิธีเครื่องยกกระชับใบหน้าให้เหมาะสม สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจ คือ ลักษณะโครงหน้าพื้นฐานของแต่ละคน เพราะรูปหน้าที่แตกต่างกันย่อมมีจุดเด่น จุดด้อย และปัญหาที่พบได้บ่อยแตกต่างกันด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อการเลือกวิธีการดูแลใบหน้าและเทคนิคการยกกระชับใบหน้าที่เหมาะสม

 

โดยทั่วไป โครงหน้าในเชิงความงาม สามารถจำแนกได้หลายประเภท แต่ในบทความนี้จะโฟกัส 3 รูปหน้าหลักที่มักพบปัญหาบ่อย ได้แก่ หน้ากลม, หน้าตอบ และหน้าเหลี่ยม ซึ่งแต่ละรูปหน้ามีลักษณะเฉพาะดังนี้

• หน้ากลม (Round Face)

ผู้ที่มีใบหน้ากลมมักจะมีโครงหน้าที่ไม่มีเหลี่ยมหรือมุมกรามชัดเจน เส้นรอบใบหน้ามีความโค้งคล้ายวงกลมหรือวงรี และส่วนของหน้าผาก กราม และคางจะอยู่ในแนวระนาบใกล้เคียง จุดเด่นอีกอย่างของใบหน้าประเภทนี้คือแก้มค่อนข้างเต็ม เมื่อมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มักจะเห็นเหนียงหรือไขมันสะสมใต้คางได้ชัดเจนกว่ารูปหน้าอื่น

ปัญหาที่พบได้บ่อยในคนที่มีใบหน้ากลม คือการที่ใบหน้าดูไม่มีมิติ แก้มดูใหญ่หรือกว้าง เมื่อกรอบหน้าไม่คมชัด ทำให้หลายคนรู้สึกว่าใบหน้าดูกลมและสั้นเกินไป อีกทั้งเมื่ออายุมากขึ้น ผิวบริเวณแก้มและคางจะมีแนวโน้มเกิดความหย่อนคล้อยเร็วกว่ารูปหน้าแบบอื่น

• หน้าตอบ (Hollow Face)

ผู้ที่มีใบหน้าตอบมักจะมีโครงหน้าเรียวยาว โหนกแก้มชัดเจน แต่บริเวณใต้โหนกแก้มมักจะดูยุบหรือแบนลง แก้มมีลักษณะตอบลึก ทำให้ใบหน้าดูซูบ และบางครั้งอาจทำให้เจ้าของใบหน้าดูโทรมหรือมีอายุกว่าความเป็นจริง แม้ว่ากรอบหน้าจะค่อนข้างชัดเจนก็ตาม

ปัญหาที่พบได้บ่อย คือความลึกของร่องต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม หรือแนวขมับที่ดูเว้า ทำให้ใบหน้าขาดความอวบอิ่ม ยิ่งเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวชั้นลึกจะยิ่งบางลง มีแนวโน้มเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยที่ชัดเจน แม้จะไม่มีไขมันสะสมมากนัก

• หน้าเหลี่ยม (Square Face)

ใบหน้าเหลี่ยมหรือใบหน้าทรงสี่เหลี่ยม เป็นอีกหนึ่งโครงหน้าที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีโครงกระดูกแข็งแรง จุดเด่นของใบหน้าประเภทนี้คือแนวกรามที่กว้างและชัดเจน โหนกแก้มเด่น หน้าผากและแนวกรามมีขนาดใกล้เคียงกัน ใบหน้าจึงดูเป็นเส้นตรงมากกว่าความโค้งแบบใบหน้ารูปไข่

ปัญหาที่พบบ่อยในคนที่มีใบหน้าเหลี่ยม คือการที่ใบหน้าดูแข็งหรือดุดัน ขาดความอ่อนละมุน นอกจากนี้เมื่ออายุเพิ่มขึ้น บริเวณช่วงล่างของใบหน้า เช่น แนวกรามหรือแก้มล่าง จะเริ่มหย่อนคล้อยและมีไขมันสะสมได้ง่าย จนทำให้เส้นกรอบหน้าดูไม่เรียบ หรือในบางคนอาจรู้สึกว่าหน้าหย่อนหรือย้อยลงบริเวณมุมกราม เป็นต้น

 

 

วิเคราะห์เทคโนโลยีเครื่องยกกระชับใบหน้ากับแต่ละรูปหน้า

• สำหรับใบหน้าทรงกลม (Round Face)

ลักษณะเด่นของใบหน้ากลมคือมีแก้มเต็ม เส้นกรอบหน้าไม่คมชัด และมักมีปัญหาเหนียงหรือคางสองชั้น ดังนั้น แนวทางที่เหมาะสมคือการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยทั้งลดไขมันสะสมเฉพาะจุดและยกกระชับใบหน้าในเวลาเดียวกัน เพื่อสร้างมิติให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่ Ultherapy Prime, Ultraformer MPT, Oligio, Thermage FLX และ Super HIFU ซึ่งสามารถช่วยปรับสัดส่วนใบหน้าให้เข้ารูปทรงมากขึ้น

• สำหรับใบหน้าทรงตอบ (Hollow Face)

คนที่มีใบหน้ามักมีโหนกแก้มเด่น ผิวบาง และดูซูบ ทำให้ใบหน้าดูโทรมหรือมีอายุมากกว่า ความเป็นจริง ดังนั้นจึงควรเลือกเทคโนโลยีที่ช่วยยกผิวโดยไม่ลดปริมาณไขมันมากเกินไป เพื่อรักษาวอลลุ่มในจุดสำคัญของใบหน้า เทคโนโลยีที่เหมาะได้แก่ Ultraformer 4D Lift, Fix Lift และ EMFACE ซึ่งเน้นการกระตุ้นกล้ามเนื้อและคอลลาเจน พร้อมช่วยปรับความแน่นของโครงสร้างผิวให้ดูอิ่มฟูมากขึ้นโดยไม่ทำให้ใบหน้าดูซูบลงกว่าเดิม

• สำหรับใบหน้าทรงเหลี่ยม (Square Face)

ใบหน้าเหลี่ยมมักมีกรามชัดและมุมของใบหน้าดูแข็งแรง การยกกระชับใบหน้าในกรณีนี้ควรเน้นเทคโนโลยีที่สามารถปรับความชัดของกรอบหน้าให้ละมุนลง และลดความแข็งของแนวกรามร่วมด้วย โดยเฉพาะบริเวณช่วงล่างของใบหน้า ตัวเลือกที่เหมาะ ได้แก่ Thermage FLX, Super HIFU, Fix Lift, และ EMFACE ซึ่งมีความสามารถในการกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังชั้นลึก ช่วยเสริมโครงหน้าให้ได้รูปมากขึ้น

 

การวางแผนทำเครื่องยกกระชับใบหน้าให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

แม้ว่าการเลือกวิธียกกระชับใบหน้าจะพิจารณาจากรูปหน้าเป็นหลัก เช่น หน้ากลม หน้าตอบ หรือหน้าเหลี่ยม แต่ในความเป็นจริง ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาร่วมด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพ เห็นผลชัด และเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งปัจจัยการวางแผนยกกระชับใบหน้า มีดังนี้

• โครงสร้างใบหน้าและคุณภาพของผิว

การประเมินเบื้องต้น เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะโครงหน้า เช่น ขนาดของโหนกแก้ม ความชัดของแนวกราม รูปร่างของคาง ไปจนถึงสัดส่วนของใบหน้าโดยรวม เพื่อดูว่าควรเน้นยกส่วนใด ลดจุดไหน หรือเสริมวอลลุ่มบริเวณใดบ้าง 

• ความต้องการและระดับความเปลี่ยนแปลงที่คาดหวัง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการพูดคุยกับผู้เข้ารับบริการว่าอยากเห็นผลในลักษณะใด บางคนอาจต้องการยกกระชับใบหน้าในแบบที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน ดูยกทันที ในขณะที่บางคนอาจเพียงต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใสขึ้นโดยไม่ให้คนรอบข้างสังเกตความเปลี่ยนแปลงมากนัก 

• การเลือกเทคโนโลยีหรือเทคนิคที่สอดคล้องกับปัญหา

ในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายสำหรับการยกกระชับใบหน้า ตั้งแต่การใช้คลื่นเสียง, คลื่นวิทยุ หรือหัตถการที่ใช้เข็ม การเลือกวิธีที่เหมาะสมจึงต้องคำนึงถึงความลึกของปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน เช่น หากมีผิวบางมาก อาจไม่เหมาะกับเทคนิคที่ลดไขมันมากเกินไป หรือหากต้องการยกโครงสร้างใบหน้าในระดับลึก อาจต้องเลือกเครื่องมือที่ลงถึงชั้น SMAS โดยตรง

• เงื่อนไขด้านสุขภาพและอายุ

สุขภาพของแต่ละคนมีผลต่อการเลือกใช้วิธีการยกกระชับใบหน้าโดยตรง เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด หรือแพ้สารบางประเภท อาจไม่สามารถทำหัตถการบางอย่างได้ นอกจากนี้ อายุยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดระดับการรักษา เช่น คนอายุ 30–40 ปี ที่เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ และความหย่อนคล้อยระดับต้น อาจใช้เทคโนโลยีที่ไม่ต้องลงลึกมากนัก ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยลงลึก ริ้วรอยร่องลึก หรือการสูญเสียวอลลุ่มผิวอย่างชัดเจน อาจต้องวางแผนการรักษาหลายชั้นและใช้เทคนิคผสมผสานมากขึ้น

• การดูแลต่อเนื่องและการติดตามผลหลังทำ

หลังจากทำการยกกระชับใบหน้าแล้ว การดูแลต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการดูแลผิวอย่างถูกวิธีมีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น นอกจากนี้ การติดตามผลกับแพทย์หรือคลินิกตามนัดยังช่วยประเมินความเปลี่ยนแปลง ปรับแผนการดูแลในอนาคต และตรวจสอบความเสี่ยงหรืออาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังการรักษาได้อย่างทันท่วงที

 

 

เครื่องยกกระชับใบหน้า ช่วยอะไรบ้าง?

• ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับและเต่งตึงขึ้น
• ลดความหย่อนของแก้ม ใต้คาง และแนวกรอบหน้า
• เสริมให้กรอบหน้าคมชัดขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม
• ลดเหนียงหรือคางสองชั้นที่ทำให้หน้าดูอ้วน
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว
• ช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
• ปรับผิวหน้าให้ดูเนียนละเอียดและยืดหยุ่นมากขึ้น
• ทำให้ผิวดูอิ่มฟู สดใส และสุขภาพดีขึ้น
• ลดไขมันสะสมเฉพาะจุด 
• แก้ปัญหาหน้าหย่อนที่เกิดจากอายุหรือน้ำหนักลด
• ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ช่วยยกหางตาและช่วงหน้าผากให้ดูตึงขึ้น
• ปรับสัดส่วนใบหน้าให้สมดุล 

 

ข้อดีของการทำเครื่องยกกระชับใบหน้า

• ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับ ดูเต่งตึงขึ้น
• ลดริ้วรอย ร่องลึก และสัญญาณแห่งวัยบนใบหน้า
• ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน 
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
• ผิวดูเนียนละเอียดขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• ใบหน้าดูสดใส สุขภาพดีขึ้น
• ลดแก้ม แก้ปัญหาแก้มห้อย หรือมีไขมันส่วนเกิน
• ลดเหนียงหรือคางสองชั้น ให้คางดูชัดและคอเรียวยาวขึ้น
• ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว
• ให้ผลลัพธ์ที่ไม่แข็ง ไม่เปลี่ยนรูปหน้าฉับพลัน
• เพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวันและการเข้าสังคม
• มีเทคนิคให้เลือกหลากหลายตามงบประมาณและรูปหน้า
• สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้
• ปรับผิวหน้าให้ดูอ่อนวัยขึ้นได้หลายปีโดยไม่ต้องเจ็บตัว
• ช่วยปรับบุคลิกภาพโดยรวมให้ดูอ่อนโยนและละมุนมากขึ้น
• เหมาะทั้งผู้หญิงและผู้ชายในทุกช่วงวัย
• ทำเฉพาะจุดได้ ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหน้า
• ลดความมันส่วนเกินและช่วยควบคุมความสมดุลผิว

 

 

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำเครื่องยกกระชับใบหน้า?

• ผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป
• ผู้ที่รู้สึกว่าใบหน้าขาดความกระชับ ไม่เต่งตึงเหมือนเดิม
• ผู้ที่มีปัญหาแก้มย้อย หรือแนวกรอบหน้าไม่ชัด
• ผู้ที่มีเหนียงหรือคางสองชั้น
• ผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วผิวหน้าดูเหี่ยวย่น
• ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณหางตา หน้าผาก หรือร่องแก้ม
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูสดใสขึ้น
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวหรือสมส่วนขึ้น
• ผู้ที่อยากชะลอวัยโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม
• ผู้ที่มีเวลาจำกัด ไม่สะดวกพักฟื้นนาน
• ผู้ที่ต้องออกงาน ออกกล้อง ถ่ายภาพ
• ผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องในเชิงป้องกัน
• ผู้สูงอายุที่ต้องการคืนความยืดหยุ่นผิว แต่ไม่ต้องการศัลยกรรม
• ผู้ที่อยากยกผิวเฉพาะจุด เช่น หางตา มุมปาก คาง หรือแนวกรอบหน้า

 

หมายเหตุ

การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรผ่านการประเมินโดยแพทย์ เนื่องจากปัจจัยด้านอายุ สภาพผิว โครงหน้า รวมถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ ล้วนมีผลต่อประสิทธิภาพของการรักษา ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การขอคำแนะนำจากคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

 

ใครบ้างที่อาจไม่เหมาะกับการทำเครื่องยกกระชับใบหน้า?

• ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
• ผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรังบริเวณใบหน้า เช่น ผื่นแพ้ ผิวติดสเตียรอยด์ หรือโรคสะเก็ดเงิน
• ผู้ที่มีบาดแผลเปิด แผลสด หรือสิวอักเสบรุนแรงในบริเวณที่ต้องการยกกระชับใบหน้า
• ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย 
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ได้ เช่น โรคหัวใจรุนแรง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
• ผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย
• ผู้ที่รับประทานยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน
• ผู้ที่มีผิวบางมากผิดปกติ หรือสูญเสียไขมันใต้ผิวในระดับที่มาก
• ผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินจริง หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้า
• ผู้ที่เคยศัลยกรรมใบหน้าแบบดึงหน้าอย่างรุนแรง และมีพังผืดในชั้นผิวมาก
• ผู้ที่มีผิวติดเชื้อ เช่น เริมบริเวณปาก หรือมีการติดเชื้อเชื้อราหรือแบคทีเรียบนใบหน้า
• ผู้ที่อยู่ในภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเพิ่งหายจากอาการเจ็บป่วย
• ผู้ที่มีอาการกลัวเจ็บมากหรือไม่สามารถทนต่อการสัมผัสพลังงานได้เลย
• ผู้ที่ต้องการเห็นผลชัดทันทีในครั้งเดียว โดยไม่เข้าใจธรรมชาติของเทคโนโลยี
• ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือปัญหาทางจิตใจที่อาจมีผลต่อการยอมรับรูปลักษณ์ของตนเอง
• ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำรุนแรง และยังไม่ได้รับการฟื้นฟูสภาพผิวเบื้องต้น

 

หมายเหตุ

ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการทำหัตถการประเภทนี้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ควรเข้ารับการประเมินอย่างละเอียดโดยแพทย์ เพื่อวิเคราะห์ทั้งโครงสร้างผิว ปัญหาเฉพาะบุคคล รวมถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

 

 

คำแนะนำการดูแลหลังทำเครื่องยกกระชับใบหน้า

• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 2–3 วันแรก
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ในช่วงสัปดาห์แรก
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าแรง ๆ เช่น การถูหน้า เช็ดหน้าแรง ๆ
• หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงข้างที่โดนหน้าโดยตรง
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เล่นกีฬา หรือว่ายน้ำ ในช่วง 3–5 วันแรก
• งดนวดหน้า ขัดผิว หรือทำทรีตเมนต์แรง ๆ เป็นเวลา 1–2 สัปดาห์
• งดอบไอน้ำ ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้ผิวหน้าโดนความร้อนสูง
• งดการใช้สกินแคร์หรือเมคอัพที่มีน้ำหอม หรือส่วนผสมที่ก่อการระคายเคือง
• งดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัด หรือใช้น้ำแข็งถูใบหน้าในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
• ควรทาครีมกันแดด SPF 50 PA++++ เป็นประจำ
• ควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอ วันละ 8–10 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
• ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6–8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดี
• ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นความชุ่มชื้นและอ่อนโยน

 

รวมคำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกเครื่องยกกระชับใบหน้าให้เหมาะกับโครงหน้า

ยกกระชับใบหน้ากี่ครั้งถึงจะเห็นผล? ต้องทำบ่อยแค่ไหน?

• โดยทั่วไปแล้ว การยกกระชับใบหน้าด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ มักจะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยเฉพาะเทคโนโลยี Ultherapy Prime, Thermage FLX หรือ Oligio ให้ผลลัพธ์ที่ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และคงอยู่ได้ตั้งแต่ 12-24 เดือน ส่วนเทคโนโลยีที่ต้องทำเป็นคอร์ส เช่น EMFACE หรือ Fix Lift มักแนะนำให้ทำประมาณ 3-6 ครั้งในช่วงแรก แล้วจึงเว้นช่วงเป็นรายปีเพื่อรักษาผลลัพธ์เอาไว้ การวางแผนร่วมกับแพทย์จะช่วยกำหนดความถี่และจำนวนครั้งได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาผิวและงบประมาณของแต่ละคน

ทำไมหน้ารูปทรงเดียวกัน ผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้าอาจไม่เหมือนกัน?

• แม้จะมีโครงหน้าที่คล้ายกัน เช่น หน้ากลม หน้าตอบ หรือหน้าเหลี่ยม แต่ผลลัพธ์ของการเครื่องยกกระชับใบหน้ากลับแตกต่างกันในแต่ละคน เพราะปัจจัยอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผิวมีความหลากหลาย ทั้งความหนาของผิว ปริมาณไขมันใต้ผิว สภาพกล้ามเนื้อ อายุ คอลลาเจนเดิมในชั้นผิว และแม้แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต ล้วนส่งผลต่อการฟื้นตัวและการตอบสนองต่อการเครื่องยกกระชับใบหน้า นอกจากนี้เทคนิคที่เลือกใช้ และความแม่นยำของแพทย์ในการประเมินสภาพผิว ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์ในแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เครื่องยกกระชับใบหน้าเฉพาะจุด VS ยกทั่วหน้า แบบไหนเหมาะกับใคร?

• การเลือกว่าจะเครื่องยกกระชับใบหน้าเฉพาะจุดหรือทั่วหน้า ควรพิจารณาตามปัญหาผิวและความต้องการเฉพาะบุคคล หากคุณมีปัญหาเพียงบางบริเวณ เช่น เหนียงเล็กน้อย หางตาตก หรือแก้มล่างหย่อนเล็กน้อย การยกเฉพาะจุดจะเพียงพอและให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมโดยไม่จำเป็นต้องทำทั่วทั้งใบหน้า ในทางกลับกัน หากมีปัญหาความหย่อนคล้อยในหลายบริเวณ กรอบหน้าไม่ชัด แก้มตก และเริ่มมีริ้วรอยทั่วใบหน้า การยกกระชับทั่วหน้าจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูชัดเจนและกลมกลืนมากกว่า เพราะช่วยเครื่องยกกระชับใบหน้าได้แบบองค์รวม

การเครื่องยกกระชับใบหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือการเข้าใจโครงสร้างเฉพาะของแต่ละใบหน้า เพื่อเลือกเทคนิคที่ตอบโจทย์ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากลมที่ต้องการลดแก้มและเหนียง หน้าตอบที่ต้องเติมความแน่นให้ผิว หรือหน้าเหลี่ยมที่อยากเครื่องยกกระชับใบหน้า ปรับกรอบหน้าให้ดูละมุน ทุกโครงหน้าต่างมีแนวทางที่เหมาะสมเป็นของตัวเอง

ดังนั้น การวางแผนร่วมกับแพทย์ พร้อมประเมินปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิว หรือเวลาพักฟื้น จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ทั้งเห็นผลและดูดีอย่างกลมกลืนกับใบหน้าในแบบที่คุณต้องการ

หากคุณกำลังมองหาวิธีเครื่องยกกระชับใบหน้าที่ใช่สำหรับใบหน้าของคุณ ลองปรึกษาแพทย์ที่เข้าใจโครงหน้าในมิติต่าง ๆ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สวยพอดีและมั่นใจได้ในระยะยาว