เป็นฝ้าแดดมาหลายปี มีวิธีดี ๆ รักษาให้หายขาดได้ไหม ?
ฝ้าแดด หนึ่งในปัญหาผิวพรรณที่เรียกได้ว่ายืนหนึ่งในคนไทย เพราะบ้านเรามีสภาพอากาศที่ร้อนแทบตลอดทั้งปี รวมถึงมีแสงแดดจัด นอกจากนี้คนไทยยังนิยมการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และขาดการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ทำให้ปัญหาฝ้าแดดที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเสียได้
การรักษาฝ้าแดดสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทำเลเซอร์ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และสามารถทำได้ตั้งแต่การเป็นฝ้าแดดในระยะเริ่มแรก การทายา การปรับเปลี่ยนยาที่กินเป็นประจำ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ตลอดจนการทำทรีตเม้นต์ อย่าง AHA ทรีตเม้นต์ Iontophoresis การลอกหน้าด้วยกรดผลไม้ การกรอขัดผิว หรือทำหลาย ๆ วิธีร่วมกัน ก็จะช่วยให้หน้าใสไร้ฝ้าได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย
แต่สิ่งสำคัญมากกว่านั้นก็คือการทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้วิธีการรักษาฝ้าแดดในวิธีนั้น ๆ เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด และไม่กลับมาเป็นซ้ำ หรือเป็นซ้ำได้น้อยที่สุด
ประเภทของครีมกันแดด
- Chemical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวด้วยการดูดซึมรังสียูวีเป็นหลัก แต่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้
- Physical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวโดยการเคลือบชั้นผิว เมื่อแสงยูวีกระทบลงบนผิวจึงจะสะท้อนกลับไป
รังสี UV ประเภทต่าง ๆ ตัวการร้ายที่ทำให้เกิดฝ้าแดด ส่งผลกระทบต่อผิวพรรณของเราอย่างไรบ้าง
- รังสี UVA อาจทำให้ผิวแห้งกร้าน และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- รังสี UVB มีส่วนในการทำให้ผิวไหม้แดด
- รังสี UVC เป็นรังสีที่ไม่สามารถส่องมาถึงพื้นโลกได้
ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังรักษาฝ้าแดดอยู่ จึงควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ รังสี UVB โดยสามารถเลือกได้จาก
- ครีมกันแดดที่มี SPF ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันรังสี UVB โดยค่า SPF ที่สูงขึ้น ก็จะมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดมากขึ้นเท่านั้น
- ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ สามารถดูได้จากค่า Protective Grade of UVA หรือที่เราคุ้นตากันในคำว่า PA++++ โดยความสามารถในการปกป้องผิวนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนของเครื่องหมาย + นั่นเอง
สำหรับผู้ที่รักกิจกรรมกลางแจ้ง ซื่งอาจต้องเผชิญกับปัญหาฝ้าแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวได้จากทั้งรังสี UVA และ UVB และมีค่า SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป หากทำกิจกรรมที่ต้องมีเหงื่อออกหรือโดนน้ำ การเลือกครีมกันแดดที่กันน้ำด้วย ก็จะช่วยปกป้องผิวให้มีโอกาสเกิดฝ้าแดดได้น้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพ
ทาครีมกันแดดอย่างไร ให้ปลอดภัยจากฝ้าแดด
- ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15 – 30 นาที
- สำหรับการทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้า ควรใช้ครีมกันแดดอย่างน้อย 2 ข้อนิ้วมือ แต่หากเป็นครีมกันแดดชนิดกันน้ำ หรือแบบโลชั่น แนะนำให้ใช้ในปริมาณเท่ากับเหรียญสิบ สองเหรียญ
- เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดฝ้าแดด ควรทาครีมกันแดดอย่างน้อย 5 จุดบนใบหน้า ได้แก่บริเวณหน้าผาก แก้มสองข้าง จมูก และคาง โดยเกลี่ยครีมกันแดดให้ซึมเข้าทั่วหน้า ก่อนออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ
- หากมีการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก หรือโดนน้ำ ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกครั้ง
- หากรู้สึกว่าแดดจัดมาก ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดในช่วงเลา 00 – 16.00 น.
สำหรับใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหาฝ้าแดดอยู่ ไม่ต้องกังวลใจไป! เพราะรู้ก่อน รักษาได้ก่อน เพราะจริง ๆ แล้วฝ้าแดดสามารถรักษาให้หายขาดได้หลากหลายวิธี และในปัจจุบันนี้ก็มีคลินิกเปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก หากแต่ทุกคนควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะกลับมาเป็นอีกมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังการรักษาด้วยนะ!